เหมราชฯ เผยเตรียมแผนผุด 3 นิคมอุตฯ ในชลบุรี-ระยอง กันที่ดินในพอร์ต 2,000-3,000 ไร่ต่อแห่งทำนิคมอุตฯ แจงที่ดินสะสมในมือ 1.1 หมื่นไร่ผ่านอีไอเอ และ BOI แล้ว พร้อมลุยสร้างนิคมตามแผน 12 แห่งในอีก 1-2 ปี เผยยอดขายครึ่งปี 580 ไร่ จากเป้า 1,400 ไร่ ในปี 60 คาดปลายปี 60 ต่อเนื่องปี 61 ความต้องการที่ดินในนิคมอุตฯ ภาคตะวันออกขยายตัวสูงรับการลงทุนโครงการอีอีซี
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า ถึง เหมราช พัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก มีแผนจะขยายนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มให้ครบ 12 แห่ง จากปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมอยู่ 9 แห่ง โดยในช่วง 1-2 ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี 2 แห่ง และระยอง 1 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีนิคมฯ ในการบริหารงานรวม 11 แห่ง โดยนิคมใหม่ที่จะเปิดบริการทั้ง 3 แห่งดังกล่าว จะใช้ที่ดินแห่งละ 2,000-3,000 ไร่ โดยที่ดินที่จะนำมาพัฒนานิคมแห่งใหม่นั้น บริษัทมีที่ดินที่ผ่านการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และขอบีโอไอ
“เหมราชฯ มีที่ดินสะสมในมือ 46,000 ไร่ ซึ่งกระจายอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในจังหวัดสระบุรี ชลบุรี และระยอง โดยที่ผ่านมา ได้พัฒนาและขายไปแล้ว 35,000 ไร่ ทำให้ในปัจจุบันเหลือที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและพัฒนาแล้วบางส่วน 11,000 ไร่ ซึ่งจะนำมาพัฒนานิคมเพิ่มให้ครบตามเป้าหมาย 12 นิคมฯ”
ทั้งนี้ ในปี 2560 เหมราชฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายที่ดินในนิคมอุตฯ รวม 1,400 ไร่ เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่วางไว้เดิมในช่วงต้นปี 1,000 ไร่ โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เหมราชฯ มียอดขายที่ดินแล้ว 580 ไร่ และตั้งเป้าว่าจะมียอดโอนที่ดินในนิคมอุตฯ ทั้งปี 1,000-1,100 ไร่ และตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ก็มีแผนว่าในระยะ 5 ปีจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มเป็น 21,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่ม 10-15%
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดรวมนิคมอุตสาหกรรมถือว่ามีอัตราการขยายตัวที่ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจกลุ่มนักลงทุน และกลุ่มธุรกิจการบิน รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตและศูนย์การกระจายสินค้าจำนวนมาก คาดว่าไตรมาสที่ 4/60 ต่อเนื่องถึงปี 61 นิคมอุตฯ จะขยายตัวสูง เนื่องจากโครงการอีอีซี มีความพร้อม และชัดเจน ทำให้เกิดการตั้งฐานผลิตและโรงงานในพื้นที่อีอีซี เพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสนใจเข้ามาลงทุนในกลุ่มธุรกิจไฮเทคโนโลยี รวมถึง SME ด้วย
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนต่างประเทศ บริษัท เหมราชฯ ในเครือบริษัท WHA กรุ๊ป กล่าวว่า ล่าสุด ได้เซ็นสัญญาขายที่ดินจำนวน 77 ไร่ในนิคมอุตฯเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด 2 แก่บริษัท เหล็กสยาม ยามาโตะ จำกัด หรือ SYS เพื่อก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งเป็นการขยายโกดังสินค้า และศูนย์กระจ่ายสินค้าแห่งที่ 2 หลังจากก่อนหน้าได้ซื้อที่ดินในนิคมอุตฯ เหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) เพื่อก่อตั้งโรงงาน
“การซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าในนิคมอุตฯ เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด 2 เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และการส่งออกในต่างประเทศ เนื่องจากในพื้นที่โครงการอีอีซี จะมีการขยายกิจกรรมด้านอุตสาหกรรม และการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน ทำเลที่ตั้งของนิคมดังกล่าวก็อยู่ในพื้นที่ที่มีระบบขนส่งเพียบพร้อมรองรับการขนส่งเป็นอย่างดี” นายเจษฎา ปลั่งมณี กรรมการผู้จัดการ เหล็กสยม ยามาโตะ กล่าว
.