สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน-โบรกเกอร์ ประสานเสียงหุ้นไทยปีหน้าสดใส เป้าหมาย 1,720-1,780 จุด ขานรับกำไร และเศรษฐกิจโตดี
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวในงานเสวนา “วิเคราะห์หุ้นไทยหลังผ่าน 1,650 จุด เป้าหมายถัดไปคือระดับใด ?” โดยระบุว่า แม้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงประมาณร้อยละ 5 ติดอันดับ 3 ของตลาดหุ้นโลกที่ให้ผลตอบแทนสูงในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่เกิดสัญญาณฟองสบู่ เพราะสาเหตุหลักมาจากเงินทุนต่างชาติไหลเข้า โดยเป็นเงินทุนที่ไหลออกมาจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นหลัก ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีระดับราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ หรือพีอีเรโช ที่ 15-16 เท่า ใกล้เคียงกับหุ้นเพื่อนบ้าน โดยคาดว่า ดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้อยู่ที่ 1,660 จุด ไม่เกิน 1,700 จุด เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ยังเติบโตไม่มากประมาณร้อยละ 5-6 ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นได้จากสภาพคล่องต่างประเทศที่ไหลเข้ามาเท่านั้น โดยให้นักลงทุนระวังแรงขายทำกำไรอาจทำให้ดัชนีย่อลงมาบ้าง แต่ไม่หลุดระดับ 1,600 จุด เนื่องจากสภาพคล่องในโลกยังมีสูงมาก
ส่วนแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยปี 2561 จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,720 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 รวมทั้งจะมีการเลือกตั้งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์เคทีซีมิโก้ กล่าวว่า ดัชนีช่วงที่เหลือของปีเคลื่อนไหวที่ 1,630-1,700 จุด มีเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,660 จุด และเพิ่มเป็น 1,720 จุด และ 1,780 จุด ในปี 2561 หรือระดับพีอีเรโช ที่ 15.60 -16.10 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะเติบโตร้อยละ 10 โดยเป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจที่จะขยายตัวสูงขึ้น โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 19-20 กันยายนนี้ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
นายสมบัติ นราวุฒิชัย อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนและประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี กล่าวว่า เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีหน้าอยู่ที่ 1,750 จุด โดยเชื่อว่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่เคยไหลออกเมื่อปี 2556-2558 ประมาณ 380,000 ล้านบาท จะทยอยไหลกลับไทย หากดัชนีปรับฐานลงมาบ้างก็ไม่ต่ำกว่า 1,600 จุด เพราะจะมีแรงซื้อกลับ เพราะมั่นใจแนวโน้มเศรษฐกิจไทยดีขึ้น กำไรของบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโตมากกว่าปีนี้
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นแรง มาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยราคาหุ้นไทยไม่แพง หากเทียบกับภูมิภาค เพราะในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นไทยเคลื่อนไหวไม่มากนัก ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน และไม่ได้มากจากเงินร้อนจากต่างชาติเหมือนที่หลายฝ่ายกังวล อย่างไรก็ตาม ขอให้นักลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสาร และเน้นการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เลือกลงทุนระยะยาว