xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติเปิดให้บริการเชื่อมโยง e-Wallet กับระบบพร้อมเพย์ 15 ก.ย. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แบงก์ชาติ เปิดบริการเชื่อโยง e-Wallet กับระบบพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 15 ก.ย. นี้ หวังอำนวยความสะดวกเพิ่มช่องทางการชำระเงินให้แก่ประชาชน พร้อมผลักดันเข้าสูงสังคมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ประเดิมธนาคาร 10 แห่ง และนอนแบงก์อีก 2 แห่ง

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยี ทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมการค้า ผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย ธนาคารพาณิชย์ไทย สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet หรือ e-Money) และบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ได้พัฒนาบริการเชื่อมโยง e-Wallet กับระบบพร้อมเพย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการโอนเงิน หรือเติมเงิน ระหว่างบัญชีเงินฝากธนาคาร กับ e-Wallet ของผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank) เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนมีช่องทางการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สะดวก รวดเร็วมากขึ้น และนำไปสู่การผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริการเชื่อมโยง e-Wallet กับระบบพร้อมเพย์ พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มีธนาคาร 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกร จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน), ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), สาขาธนาคารต่างประเทศ 1 แห่ง คือ ธนาคารมิตซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ และผู้ให้บริการ e-Wallet ที่เป็น Non-bank 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด และบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เริ่มให้บริการ และผู้ให้บริการอื่น ๆ จะทยอยเปิดให้บริการตามความพร้อมของผู้ให้บริการแต่ละราย

ในการเริ่มใช้บริการ e-Wallet ของ Non-bank ที่เชื่อมโยงกับระบบพร้อมเพย์ ประชาชนต้องเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการตามช่องทาง และวิธีการที่ผู้ให้บริการแต่ละรายกำหนด ซึ่งจะมีการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเจ้าของ e-Wallet หลังจากนั้น ผู้ใช้บริการจะได้รับหมายเลข e-Wallet 15 หลัก เพื่อใช้สำหรับรับโอนเงิน หรือเติมเงินเข้า e-Wallet ผ่านหมายเลข e-Wallet 15 หลัก และสามารถโอนเงินจาก e-Wallet ไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารผ่านเลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ได้โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับการโอนเงินพร้อมเพย์ เช่น หากเป็นการโอนเงิน หรือเติมเงินไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่เสียค่าธรรมเนียม

สำหรับการเชื่อมโยง e-Wallet กับระบบพร้อมเพย์ เป็นบริการต่อยอดจากการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ที่ปิดให้บริการในปัจจุบัน ซึ่งได้เริ่มให้บริการโอนเงินสวัสดิการของหน่วยงานภาครัฐเมื่อเดือนธันวาคม 2559 การโอนเงินระหว่างบุคคลธรรมดาเมื่อเดือนมกราคม 2560 และการโอนเงินของนิติบุคคลเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย เนื่องจากการให้บริการดังกล่าวพัฒนาบนโครงสร้าง พื้นฐานของระบบพร้อมเพย์ อีกทั้งมีการกำหนดกระบวนการเปิดใช้บริการ และการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้บริการที่รัดกุม และมีกระบวนการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น