“ชาญอิสสระ” ประเมินตลาดโรงแรมในเมืองท่องเที่ยว ภูเก็ต-หัวหิน ยังเติบโตสูง ล่าสุด โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ได้ขยายแบรนด์โรงแรมสุดหรู 2 ทำเลศักยภาพ ผุด “บาบาบีช คลับ หัวหิน” และ “บาบาบีช คลับ ภูเก็ต” มูลค่าการลงทุนโครงการรวม 4,700 ล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการพร้อมกัน ต.ค. นี้ มั่นใจยอดขายทั้งปีตามเป้า 3,000 ล้านบาท แย้มแผนลงทุนปี 61 พัฒนาคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ทองหล่อ
นายสงกรานนต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI กล่าวถึงภาพรวมของตลาดการท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต และหัวหิน ว่า ในส่วนของภูเก็ต ยังมีแนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ จีน, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออก รวมถึงการขยายเที่ยวบินของจังหวัดภูเก็ต และการขยายเที่ยวบินของจังหวัดภูเก็ต และการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ จากภารรัฐ ที่มีนโยบายออกมากระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
ขณะที่หัวหิน ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำหรับภาคการท่องเที่ยว ยังมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดีเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากผู้ประกอบการมีการพัฒนาโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยมีปัจจัยการเดินทางที่ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหัวหิน เดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขี้น รวมถึงมีระบบโครงข่ายคมนาคมที่เพิ่มให้ความสะดวกมากขึ้น รวมถึงรัฐบาลมีการเปิดประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน
“เพื่อเป็นการรองรับอัตรการเติบโตของภาคธุรกิจท่องเที่ยว ล่าสุด “ศรีพันวา” ได้ขยายแบรนด์โรงแรมสุดหรู 2 แห่ง จับกลุ่มท่องเที่ยว เมืองภูเก็ต และหัวหิน ภายใต้แบรนด์ “บาบาบีช คลับ หัวหิน” และ “บาบาบีช คลับ ภูเก็ต” เน้นจับตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงไฮเอนด์ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นเจนเอ็กซ์ เจนวาย และมิลเลนเนียล รวมมีมูลค่าการลงทุนรวม 4,700 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการจะเปิดให้บริการพร้อมกันในเดือน ต.ค. นี้”
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับโรงแรมภายใต้แบรนด์ “บาบา บีช คลับ หัวหิน” เป็นการร่วมทุนของบริษัท ชาญอิสสระฯ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อบริษัท ร่วมอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ด้วยงบประมาณในการลงทุน 1,700 ล้านบาท พัฒนาในรูปแบบโรงแรม และเรสซิเดนซ์ ริมทะเลหัวหิน บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ มีห้องพัก จำนวน 18 ห้อง ราคาประมาณ 18,000-20,000 บาทต่อคืน และเป็นเรสซิเดนส์พลูวิลลา จำนวน 11 หลัง แบบ 3 ห้องนอน ราคา 42 ล้านบาท และวิลลา แบบ 5 ห้องนอน 83 ล้านบาท โดยในส่วนของหัวหินมียอดขายไปกว่า 50%
นายวรสิทธิ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของ “บาบา บีช คลับ ภูเก็ต” เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ และบริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท จำกัด จากประเทศจีน ภายใต้ชื่อบริษัท อิสสระ จุนฟา จำกัด ด้วยงบลงทุน 3,000 ล้านบาท ในการพัฒนาเป็นโรงแรม และเรสซิเดนส์ ระดับลักชัวรี บนพื้นที่กว่า 42 ไร่ ริมชายหาดภูเก็ตนาใต้ ประกอบด้วยโรงแรม 16 ยูนิต และบ้านพักตากาอาศที่เป็นบีชฟรอนต์วิลลา จำนวน 6 หลัง พูลวิลลา จำนวน 18 หลัง บาบา สวีท หรือพลูสวีต จำนวน 37 ยูนิต และเพนต์เฮาส์ ซึ่งขณะนี้มียอดขายไปกว่า 30% และคาดว่าช่วงฤดูการท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ที่เข้ามาประมาณเดือน พ.ย. จะมีส่วนหนุนให้ยอดขายสูงขึ้น โดยทั้ง 2 โครงการจะได้รับการบริหารจากโรงแรมศรีพันวา เข้ามาบริหารจัดการ รวมถึงการลงทุนปล่อยเช่าเรสซิเดนส์ให้กับลูกค้าอีกด้วย
นายสงกรานต์ กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2560 ว่า มั่นใจจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า 3,000 ล้านบาท โดยมียอดขายได้แล้วจากโครงการวิลลาที่ภูเก็ต และหัวหิน มาหนุนประมาณ 750-850 ล้านบาท โดยเฉพาะที่ภูเก็ต มียอดขายในส่วนของบีชฟรอนต์วิลลา ประมาณ 2-3 หลัง ๆ ละ 150 ล้านบาท รวมมูลค่า 450 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนของลูกค้าชาวรัสเซียได้เช่าอยู่ 90 ปี
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องทิศทางธุรกิจในปี 2561 นั้น ทางบริษัทชาญอิสสระฯ จะมีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ที่ทำเลทองหล่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องที่ดิน ยังไม่สามารถเปิดรายละเอียดราคาได้ ขณะที่โครงการคอนโดฯ ดิ อิสสระ เชียงใหม่ มียอดขายประมาณ 20-30% แต่ทางโครงการรอผลการเจรจากับนักลงทุนชาวจีนที่จะมาซื้อโครงการยกตึก โดยการก่อสร้างคาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 61 นอกจากนี้ ทางบริษัทจะเร่งดำเนินการขายโครงการบ้านหรูทั้งโครงการบ้านอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 และโครงการบ้านอิสสระ บางนา คาดว่าจะมีตัวเลขเข้ามาได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวในเรื่องการขยายกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (กองรีท) ทางบริษัมมีแนวทางที่จะนำโครงการในส่วนของบาบาบีช ทั้ง 2 โครงการ นำเสนอเข้าไปในกองรีท คาดจะดำเนินการได้ปีหน้า มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้กองรีตมีมูลค่าเพิ่มเป็น 4,500 ล้านบาท.