BG Microfinance Myanmar Co.,Ltd บริษัทย่อย “กรุ๊ปลีส” ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาให้สามารถที่จะให้บริการรับฝากเงินจากบุคคลธรรมดาได้ หลังจากเปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปี และมีผลประกอบการกำไร 2 ปีติดต่อกัน
บริษัท BG Microfinance Myanmar Co.,Ltd. (BGMM) เป็นบริษัทย่อยของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ซึ่งประกอบธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในประเทศเมียนมา ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาให้สามารถที่จะให้บริการรับฝากเงินจากบุคคลธรรมดาได้แล้ว ภายหลังจากที่ได้เปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปี และมีผลประกอบการกำไร 2 ปีติดต่อกัน
โดย BGMM เป็นบริษัทย่อยรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน โดยการอนุญาตนี้จะส่งผลให้ BGMM มีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ และอยู่ในรูปของสกุลเงินท้องถิ่น คือ “เงินจ๊าด” อีกทั้งยังเป็นการลดความต้องการเงินทุนจากทางบริษัทลงอีกด้วย และยังส่งผลให้ BGMM สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถดึงดูดลูกค้าให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการเพิ่มรายได้ของบริษัทให้มากขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทลดลง
หลังจากที่ GL เข้ามาซื้อ BGMM ก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยภายในระยะเวลา 4 เดือน BGMM สามารถเพิ่มยอดสินเชื่อที่ปล่อยกู้ได้มากกว่า 3 เท่าในแต่ละเดือนจาก 311 ล้านจ๊าดในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็น 1,134 ล้านจ๊าดในเดือนมิถุนายน 2560 ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อ (loan portfolio) โดยรวมของ BGMM เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจาก 1,890 ล้านจ๊าดเป็น 3,876 ล้านจ๊าด ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งโดยหลักเป็นผลมาจากความสามารถของ BGMM ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งจากเดิมที่มีเพียง 10,479 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เพิ่มเป็น 21,101 รายในเดือนมิถุนายน 2560 ดังนั้น ทั้ง BGMM และ GL จึงมุ่งหวังที่จะทำให้บริษัทเจริญเติบโต และช่วยเหลือชาวเมียนมาต่อไป
บริษัท BG Microfinance Myanmar Co.,Ltd. (BGMM) เป็นบริษัทย่อยของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ซึ่งประกอบธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในประเทศเมียนมา ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาให้สามารถที่จะให้บริการรับฝากเงินจากบุคคลธรรมดาได้แล้ว ภายหลังจากที่ได้เปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปี และมีผลประกอบการกำไร 2 ปีติดต่อกัน
โดย BGMM เป็นบริษัทย่อยรายแรกที่ได้รับอนุญาตให้รับฝากเงิน โดยการอนุญาตนี้จะส่งผลให้ BGMM มีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ และอยู่ในรูปของสกุลเงินท้องถิ่น คือ “เงินจ๊าด” อีกทั้งยังเป็นการลดความต้องการเงินทุนจากทางบริษัทลงอีกด้วย และยังส่งผลให้ BGMM สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถดึงดูดลูกค้าให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการเพิ่มรายได้ของบริษัทให้มากขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทลดลง
หลังจากที่ GL เข้ามาซื้อ BGMM ก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยภายในระยะเวลา 4 เดือน BGMM สามารถเพิ่มยอดสินเชื่อที่ปล่อยกู้ได้มากกว่า 3 เท่าในแต่ละเดือนจาก 311 ล้านจ๊าดในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็น 1,134 ล้านจ๊าดในเดือนมิถุนายน 2560 ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อ (loan portfolio) โดยรวมของ BGMM เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจาก 1,890 ล้านจ๊าดเป็น 3,876 ล้านจ๊าด ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งโดยหลักเป็นผลมาจากความสามารถของ BGMM ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งจากเดิมที่มีเพียง 10,479 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เพิ่มเป็น 21,101 รายในเดือนมิถุนายน 2560 ดังนั้น ทั้ง BGMM และ GL จึงมุ่งหวังที่จะทำให้บริษัทเจริญเติบโต และช่วยเหลือชาวเมียนมาต่อไป