xs
xsm
sm
md
lg

เผยวัยรุ่นและผู้สูงอายุเป็นหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคล น่าเป็นห่วงที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เผยงานวิจัยพฤติกรรมการกู้ของคนไทย พบว่า หนี้รถจักรยานยนต์ยอมทิ้งรถ และเป็นหนี้เสียถึงร้อยละ 37 ขณะที่วัยรุ่น และผู้สูงอายุ เป็นหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลน่าเป็นห่วงที่สุด

นางโสมรัศมิ์ จันทรัตน์ จันทร์วิไลศรี หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กล่าวว่า จากงานวิจัยเรื่อง “X- Ray พฤติกรรมการกู้ของคนไทยผ่าน Big Data ของเครดิตบูโร ซึ่งเป็นข้อมูลตั้งแต่ปี 2552-เดือนกรกฎาคม 2559 พบว่า โดยเฉลี่ยคนไทยมีสัญญาเงินกู้ 3 สัญญา และมีจำนวนสถาบันการเงินที่ใช้ 2 แห่ง แต่มี 1 ใน 6 ของคนไทย มีเงินกู้ถึง 5 สัญญา และ 1 ใน 10 ที่ใช้สถาบันการเงิน 5 แห่ง จากข้อมูลพบว่า หนี้รถยนต์ และหนี้รถจักรยานยนต์ เป็นหนี้เสียถึงร้อยละ 24 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการรถคันแรกที่กระตุ้นให้ผู้กู้ที่ยังไม่พร้อมเข้าสู่ตลาดรถยนต์ ส่วนสินเชื่อรถจักรยานยนต์พบว่า ผู้กู้ถึงร้อยละ 37 เป็นหนี้เสีย โดยสันนิษฐานว่าเป็นผลมาจากรายได้ที่ไม่แน่นอน เพราะรายได้ขึ้นอยู่กับราคาสินค้าเกษตร ประกอบกับสินเชื่อรถจักรยานยนต์เงินดาวน์ต่ำ ทำให้เมื่อไม่มีเงินผ่อนผู้กู้ก็ยอมทิ้งรถ

ส่วนกลุ่มผู้กู้ที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ กลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี และกลุ่มวัยหลังเกษียณ ที่มีหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลสูง และสัดส่วนหนี้เสียมากขึ้นในกลุ่มผู้กู้ที่มีหลายสัญญากับหลายสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ผู้กู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่กู้กับนอนแบงก์มีคุณภาพของหนี้ที่ต่ำกว่าสถาบันการเงิน ตรงกันข้ามกับสินเชื่อบัตรเครดิต ที่ผู้มีบัตรเครดิต 1 ใบกับสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียว เป็นกลุ่มที่น่าห่วงมากที่สุด เนื่องจากสะท้อนว่า ศักยภาพในการหารายได้ และการชำระเงินต่ำ ทำให้ไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้หลายใบ

“ขณะนี้กำลังติดตามมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดวงเงินการให้สินเชื่อ บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อภาวะภาวะหนี้ครัวเรือนในอนาคต เท่าที่เห็นมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมที่จะดูแลสถานการณ์หนี้ครัวเรือนได้” นางโสมรัศมิ์ กล่าว

ด้านนางสาวอัจจนา ล่ำซำ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย กล่าวว่า จากผลวิจัยพบว่า การใช้สินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตในกลุ่มพวกกู้ชนบท ยังมีอยู่น้อย แม้ว่าจะเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพดี ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในการใช้ และการเข้าถึง เห็นว่าควรส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตในชนบท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริโภค การทำธุรกิจให้คนในชนบท ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจ
กำลังโหลดความคิดเห็น