เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ขายหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท หมดเกลี้ยง “พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์” ระบุนักลงทุนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม เผยนำเงินจากแผนระดมทุนไปเสริมสร้างความแกร่งรับแผนขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (APEX) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 800 ล้านบาท อายุ 2 ปี 5 เดือน 28 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2563 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งได้เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยมี บล. เออีซี, บล. คันทรี่กรุ๊ป และ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวของบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2560-2562) ในทำเลที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,830 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 394% ประกอบด้วยโรงแรม อาคารชุด และศูนย์การค้า โดยมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากผลประกอบการทั้งหมดภายใน 3 ปีโดยประมาณ ซึ่งจะสร้างความมั่นคง และผลตอบแทนที่ดี ให้แก่ผู้ถือหุ้น
“บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีในการจองซื้อหุ้นกู้หมดเกลี้ยงภายใน 3 วันที่เสนอขาย โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันที่สนใจเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแผนการขยายธุรกิจ และการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี” นายพงษ์พันธ์ กล่าว
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (APEX) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 800 ล้านบาท อายุ 2 ปี 5 เดือน 28 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2563 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งได้เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยมี บล. เออีซี, บล. คันทรี่กรุ๊ป และ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวของบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2560-2562) ในทำเลที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,830 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 394% ประกอบด้วยโรงแรม อาคารชุด และศูนย์การค้า โดยมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากผลประกอบการทั้งหมดภายใน 3 ปีโดยประมาณ ซึ่งจะสร้างความมั่นคง และผลตอบแทนที่ดี ให้แก่ผู้ถือหุ้น
“บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีในการจองซื้อหุ้นกู้หมดเกลี้ยงภายใน 3 วันที่เสนอขาย โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันที่สนใจเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแผนการขยายธุรกิจ และการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี” นายพงษ์พันธ์ กล่าว