โบรกเผยเม็ดเงินโฆษณาเข้าช่องทีวีดิจิตอลง่ายกว่าฟรีทีวี ชี้ไตรมาส 3 กลุ่มทีวีดิจิตอล ยังมีกำไรต่อเนื่อง พร้อมปรับประมาณการกำไร WORK ปีนี้และปีหน้าเพิ่มขึ้น ด้าน MONO คาดพลิกมีกำไรต่อเนื่อง
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ด้านเม็ดเงินโฆษณา เจ้าของแบรนด์สินค้าจะให้ความสำคัญในการลงโฆษณาในช่องทีวีที่มีค่าโฆษณาไม่แพงมากนัก โดยเฉพาะทีวีที่เน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น ละคร, ซีรีส์, เกมโชว์, กีฬา และรายการเศรษฐกิจ เนื่องจากจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และรวดเร็ว กว่าช่องฟรีทีวีที่เน้นเนื้อหาที่ไม่ชัดเจน
รายงานข่าวระบุว่า บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ระบุว่า แม้ว่าภาวะเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในไตรมาส 2/2560 จะชะลอตัวลงจากภาคการบริโภคที่อ่อนแอ แต่ผู้เล่นในสื่อดิจิตอลทีวีได้รายงานกำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2 นี้ ส่วนในไตรมาส 3/2560 มองว่า บริษัทในกลุ่มทีวีดิจิตอล และสื่อนอกบ้าน จะยังมีกำไรที่เติบโตดีต่อเนื่อง แม้คาดเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมจะฟื้นตัวเล็กน้อย หรือทรงตัว จากไตรมาสก่อนหน้า
ด้านบทวิเคราะห์ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2560-2561 ของ บมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) โดยปีนี้อยู่ที่ 1,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 1,480 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 หลังจากผลประกอบการออกมาดี และแนวโน้มที่เป็นบวกมากขึ้นในไตรมาส 3/2560 จากการที่อัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยของช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี ที่เพิ่มขึ้นจาก 75,000 บาทในไตรมาส 2/2560 เป็น 80,000 บาทในช่วงต้นไตรมาส 3/2560
ขณะที่ บมจ. โมโน เทคโนโลยี (MONO) คาดว่า แนวโน้มจะสดใสต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ หลังจากอัตราค่าโฆษณาของช่อง MONO 29 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามเรตติ้งของช่อง รายได้จากธุรกิจอื่นปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรในปีนี้ และคาดว่ากำไรจะโตอย่างแข็งแกร่งถึง 165% ในปี 2561
