ซุปเปอร์บล๊อก ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนของเอเชีย ล่าสุด จรดปากกาเซ็น MOA ร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ คาดเริ่มปักหมุดก่อสร้างได้ภายในปีนี้ โดยได้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ พร้อมให้การสนับสนุน คาดจบโปรเจกต์นี้ได้ภายใน 3 ปี บิ๊กบอส “จอมทรัพย์ โลจายะ” เผยทุ่มสุดพลังเพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่อง หนุนผลงานปี 61 โตก้าวกระโดดทุกปี หวังผู้ถือหุ้นทุกคนได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือ (MOA) พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการก่อสร้างเอาไว้แล้ว โดยจะว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงานให้ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนก่อสร้างได้ภายในปี 2560 และไม่ต้องกังวลในด้านเงินทุน เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงิน และเตรียมความพร้อมในด้านนี้เอาไว้แล้ว
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ที่ได้มีการเซ็น MOA ครั้งนี้ พันธมิตรจากเวียดนาม คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งหมดภายในปลายปีนี้ โดยโปรเจกต์นี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ มีสัญญารับซื้อไฟอยู่ที่ 0.098 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีอายุสัญญา 20 ปี
“การลงนาม MOA ในการร่วมทุนพลังงานลมในครั้งนี้ถือเป็นดีลประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำ โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในการด้านการลงทุนอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และสถาบันการเงินขนาดใหญ่พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”
นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า บริษัทพันธมิตรในเวียดนามที่บริษัทฯ เข้าไปร่วมลงทุน ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานโดยตรง ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศเวียดนามมีมาก ซึ่งมั่นใจว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และสนับสนุนต่อการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทั้งนี้ นอกจากโครงการพลังงานลมในเวียดนามครั้งนี้แล้ว SUPER อยู่ระหว่างการเจรจาในการร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในอนาคตด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากประเทศเวียดนามแล้ว SUPER มีแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่น ๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมด้วยเช่นกันตามแผนธุรกิจ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562) สัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบัน 5%
“ปัจจุบัน SUPER มีใบอนุญาตขายไฟฟ้า 809 เมกะวัตต์ ดำเนินการขายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว หรือ COD จำนวน 735 เมกะวัตต์ ถือเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียในขณะนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี PPA มากกว่า 809 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนให้ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเป็น New High และส่งให้ผลกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในแรงหนุนมาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีน ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาไตรมาส 3/60 จะผลักดันให้การเติบโตของธุรกิจขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายจอมทรัพย์ กล่าว