xs
xsm
sm
md
lg

คอนโดไทยเนื้อหอม เอเยนซีนอกแห่ซื้อบิ๊กล็อต ขายนักลงทุนตปท.”สิงคโปร์-จีน-ฮ่องกง”รายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมเจอร์
เมเจอร์ฯ มั่นใจตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัว หลังผ่านจุดต่ำสุดเมื่อปี59 ชี้ไตรมาส1/60ตลาดกลาง-บน ขยายตัวชัดเจน ระบุดีมานด์ต่างชาติขยายตัวสูง เอเยนซี รุกดีลบิ๊กล็อตผู้ประกอบการส่งขายต่างชาติ ล่าสุดเมเจอร์ฯปฏิเสธขายบิ๊กล็อต หลังบริษัเอเยนซีนอกขอซื้อล็อตใหญ่ร้อยละ49 ของโครงการย่านสุขุมวิท แจงขายเองราคา-กำไรดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียส่วนลด แถมปรับราคาขายได้ตามระยะเวลา ฟุ้งด้วยทำเลที่ตั้งเชื่อสามารถขายตัวมันเอง

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 7โครงการ มูลค่า 8,000-9,000 ล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่ “มารุ” ซึ่งเจาะดลุ่มตลาดกลางบน ใน2ทำเลประกอบด้วย โครงการมารุ ลาดพร้าว15 ไฮไรส์คอนโด30ชั้นราคาเริ่มต้น3.6ล้านบาท จำนวน332ยูนิต มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท และ โครงการมารุเอกมัย ซอย2 คอนโดไฮไรส์ 32ชั้นราคาเริ่มต้น4.3ล้านบาท จำนวน371ยูนิตมูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในครั้งแรกในวันที่ 23-24 ก.ย.นี้

“เราตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย โครงการมารุ ทั้ง2 โครงการในสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มคนไทยที่ซื้อยูอาศัยจริง ส่วนกลุ่มลูกค้าต่างชาตินั้น ปัจจุบันมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปีที่ผ่านมา โดยลูกค้าต่างชาติมีทั้งกลุ่มที่ซื้อเพืรอปล่อยเช่าและขายต่อทำกำไร”

ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดในช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว โดยเฉพาะในตลาดกลาง-บน ที่มีการขยายตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจซื้ออาคารชุดเพื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการในทำเลสุขุมวิท อารีย์ พหลโยธิน สะพานควาย และลาดพร้าวได้รับความสนใจจากลุกค้า สิงคโปร์ จีน และ ฮ่องกง อย่างมาก โดยมีกลุ่มลูกค้า สิงค์โปรเป็นกลุ่มลูกค้าใหญ่สุดที่แชร์ตลาดอยู่ถึงร้อยละ40

“นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี60เป็นต้นมา กลุ่มลูกค้าต่างชาติสนใจเข้ามา ซื้อห้องชุดเพื่อลงทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลสุขุมวิท ซึ่งเดิมในการทำตลาดต่างประเทศนั้นผู้ประกอบการจะจ้างเอเยนซีให้ทำตลาดให้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีบริษัทเอเยนซีต่างชาติหลายๆรายเข้ามา เจรจาขอซื้อบิ๊กล็อต ในโครงการที่น่าสนใจเพื่อนำไปทำตลาดเอง ส่วนลูกค้าที่เป็นรายย่อยก็เข้ามาติดต่อโดยไม่ผ่านเอเยนซีเพิ่มมากขึ้น”

สำหรับโครงการของ เมเจอร์ฯ นั้นที่ผ่านมามีเอเยนซีต่างประเทศเข้ามาเจรจาขอซื้อล็อตใหญ่หลายๆราย โดยเฉพาะโครงการในทำเลสุขุมวิท ซึ่งเข้ามาเจรจาซื้อบิ๊กล็อตในสัดส่วนของต่างชาติถือได้ถึงร้อยละ49 ของจำนวนยูนิตทั้งโครงการ แต่เมเจอร์ฯ ปฏิเสธไป เนื่องจากมีนโยบายการขายบิ๊กล็อตไม่เกิดร้อยละ30 ของสัดส่วนที่ลูกค้าต่างชาติถือครองได้ เนื่องจากมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของทำเลยที่ตั้งโครงการและสามารถขายได้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ การขายยกล็อตยังมีข้อเสียในด้านการทำราคาและกำไรจากการขายของบริษัท เพราะเมื่อลูกค้าซื้อล็อตใหญ่ก็จะต้องการส่วนลดที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ เมเจอร์ฯต้องยอมขายห้องชุดในราคาที่ถูกลง แต่หากบริษัททำตลาดเอง จะสามารถปรับราคาขายขึ้นได้ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้ราคาและกำไรที่ดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น