ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย หรือ SET Index เดือน ก.ค. ปิดที่ 1,576.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.15% จากสิ้นปี 2559 มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index คือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) เดือน ก.ค. ปิดที่ 1,576.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.15% จากสิ้นปี 2559 โดยตั้งแต่ต้นปี มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 15.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.47% จากสิ้นปี 2559 ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai ในเดือนกรกฎาคม รวมอยู่ที่ 41,483 ล้านบาท
โดยภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,576.08 จุด เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 2.15% ขณะที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ของ SET อยู่ที่ 15,575,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.29% ขณะที่ mai อยู่ที่ 311,257 ล้านบาท ลดลง 26.83% จากสิ้นปี 2559
ตัวเลข Forward P/E ของ SET อยู่ที่ 15.55 เท่า และ mai อยู่ที่ 36.32 เท่า โดยอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.11% และ mai อยู่ที่ 1.59% ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560
อย่างไรก็ดี เดือนกรกฎาคม มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 41,483 ล้านบาท ลดลง 35.53% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2560 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 45,866 ล้านบาท หรือลดลง 6.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ อยู่ที่ 6,486 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคม ทำให้ยอดซื้อสุทธิรวมในเดือนมกราคม-กรกฎาคม อยู่ที่ 6,537 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคม บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีมูลค่าระดมทุนรวม 45,772 ล้านบาท ซึ่งมาจากการระดมทุนในตลาดแรก 10,871 ล้านบาท และการระดมทุนในตลาดรอง 34,901 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่าระดมทุนรวม 137,879 ล้านบาทในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560
สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น พบว่า เดือนนี้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 209,310 สัญญา และ 275,047 สัญญาในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 โดยตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม ลดลง 3.56% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2559 ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายที่ลดลงของ SET50 Index Futures
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) เดือน ก.ค. ปิดที่ 1,576.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.15% จากสิ้นปี 2559 โดยตั้งแต่ต้นปี มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 15.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.47% จากสิ้นปี 2559 ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai ในเดือนกรกฎาคม รวมอยู่ที่ 41,483 ล้านบาท
โดยภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,576.08 จุด เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 2.15% ขณะที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ของ SET อยู่ที่ 15,575,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.29% ขณะที่ mai อยู่ที่ 311,257 ล้านบาท ลดลง 26.83% จากสิ้นปี 2559
ตัวเลข Forward P/E ของ SET อยู่ที่ 15.55 เท่า และ mai อยู่ที่ 36.32 เท่า โดยอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.11% และ mai อยู่ที่ 1.59% ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560
อย่างไรก็ดี เดือนกรกฎาคม มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 41,483 ล้านบาท ลดลง 35.53% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2560 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม SET และ mai อยู่ที่ 45,866 ล้านบาท หรือลดลง 6.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ อยู่ที่ 6,486 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคม ทำให้ยอดซื้อสุทธิรวมในเดือนมกราคม-กรกฎาคม อยู่ที่ 6,537 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคม บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีมูลค่าระดมทุนรวม 45,772 ล้านบาท ซึ่งมาจากการระดมทุนในตลาดแรก 10,871 ล้านบาท และการระดมทุนในตลาดรอง 34,901 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่าระดมทุนรวม 137,879 ล้านบาทในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560
สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น พบว่า เดือนนี้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 209,310 สัญญา และ 275,047 สัญญาในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 โดยตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวม ลดลง 3.56% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2559 ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายที่ลดลงของ SET50 Index Futures