xs
xsm
sm
md
lg

“เตชะอุบล” เศรษฐีใหม่หุ้น/สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


    วิกฤตต้มยำกุ้งปี2540 ทำให้กลุ่มคันทรี่ กรุ๊ปของนายสดาวุธ เตชะอุบล เกือบถูกลบออกจากตลาดหุ้น เพราะมรสุมทางธุรกิจกระหน่ำอย่างหนัก ต้องฟื้นฟูกิจการอยู่พักใหญ่ แต่ปัจจุบันกลับมาผงาดอีกครั้ง ในฐานะกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่กำลังรุกขยายเครือข่ายธุรกิจ
    “คันทรี่ กรุ๊ป” เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เช่นเดียวกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ช่วงปี 40 ตกเป็นเหยื่อวิกฤตต้มยำกุ้งทั้งสิ้น
นายสดาวุธใช้เวลาหลายปี ในการฟื้นฟูบริษัท คันทรี่ฯ ซึ่งเกิดปัญหาฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน หุ้นถูกขึ้นเครื่องหมายเอสพี พักการซื้อขายยาว

    ไม่มีใครคิดว่า บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CGH จะรอด แต่ก็รอดมาได้ ฟื้นฟูกิจการจนสำเร็จ กลับมาเริ่มต้นดำเนินธุรกิจใหม่ และมีเครือข่ายที่ใหญ่กว่าเดิม***
ประมาณสิบปีก่อน กลุ่มคันทรี่ฯ เริ่มรุกธุรกิจอีกครั้ง โดยเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัทหลักทรัพย์ แอ๊คคินซัน จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มนายผิน คิ้วคชา(คิ้วไพศาล)
    ต่อมาปรับโครงสร้างธุรกิจ เปลี่ยนชื่อ “แอ๊คคินซัน”เป็นบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด และเปลี่ยนโครงการองค์กร โดยเป็น โฮลดิ้งส์ ภายใต้ชื่อบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อ CGH ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และถือหุ้นบริษัทอื่นในกลุ่มเตชะอุบล

     กลุ่มเตชะอุบลแจ้งเกิดรอบนี้ มากันแผงใหญ่ โดยลูกของนายสดาวุธทั้ง4 คน ประกอบด้วยนายบี นายทอมมี่ นางสาวหลุยส์ และนายเบน เตชะอุบลเข้ามาเป็นกำลังเสริม กระจายกันบริหารงานบริษัทในกลุ่ม
    “เตชะอุบล” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งในบริษัทจดทะเบียน 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน)หรือหุ้น CGH โดยถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 23% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 4,336.77 ล้านบาท

    บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CGD หุ้นถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 47% ของทุนจดทะเบียน 8,266.13 ล้านบาท
    บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือชื่อย่อ MFC ถือหุ้นในนามบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดสัดส่วน 24.81% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 125.29 ล้านบาท
     บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PDI ถือหุ้นในนามบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ในสัดส่วนประมาณ 25% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 2,260 ล้านบาท
    และบริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TRITN นางสาวหลุยส์ถือหุ้นในสัดส่วน 20.76% ของทุนจดทะเบียน 803.35 ล้านบาท

     ส่วน “เตชะอุบล” อีกสาย หรือนายอภิชัย เตชะอุบล น้องขายแท้ๆ ของนายสดาวุธ นอกจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นTFD แล้ว ยังเพิ่งเข้าไปครอบงำกิจการบริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อ HOTPOT ด้วย
    กลุ่มคันทรี่ กรุ๊ปกำลังก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ มีเครือข่ายที่กำลังแตกขยาย และถ้ายังรักษาระดับการแผ่ขยายอาณาจักรธุรกิจได้เหมือนสิบปีที่ผ่านมา อีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจยกระดับขึ้นเป็นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่
     และ “เตชะอุบล” คงมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ที่มีอันดับ ถ้าไม่สะดุดอะไรหรือทำอะไรให้สะดุดเสียก่อน
    “คันทรี่ กรุ๊ป” จะไปได้ไกลขนาดไหน ทายาททั้ง 4 ของนายสดาวุธ หรือ “เตชะอุบล”แถว 2 จะเป็นผู้ให้คำตอบแทนพ่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น