นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด (KT ZMICO) ระบุภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ทำให้ทาง KT ZMICO คาดการณ์ส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ในปีนี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 2% ในช่วงที่ผ่านมา
“ยังคงมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ คาดว่าตลาดหุ้นยังจะอยู่ในภาวะทรง ๆ ตามทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ปัจจุบัน บริษัทมีบัญชีลูกค้ากว่า 8 หมื่นบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอราว 3 หมื่นบัญชี”
ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ปัจจุบันบริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ภายในปีนี้ 2 บริษัท ซึ่งอยู่ในธุรกิจมีเดีย คอนเทนท์ และธุรกิจวิศวกรรม นอกจากนี้ยังมีงานที่ปรึกษาการควบรวมกิจการอีก 2-3 แห่งที่คาดว่าจะข้อสรุปภายในปีนี้
นายชัยภัทร กล่าวถึงกรณีหนี้ของบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ว่าเกิดจากกรณีที่ผู้บริหารและนักลงทุนทั่วไปนำหุ้น EARTH มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท แต่ขณะนี้หุ้น EARTH ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ไว้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่นำหุ้นมาเป็นหลักประกันส่วนใหญ่มีฐานะที่ค่อนข้างดี บริษัทจึงเชื่อว่าจะสามารถเรียกคืนหนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 70%
"มีบุคคลหลายกลุ่มทั้งผู้บริหาร ทั้งนักลงทุนทั่วไปที่นำหุ้น EARTH เข้ามาเป็นหลักประกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่มีฐานะดีกันทั้งนั้น เราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาที่ดำเนินการทางกฏหมายแล้วจะได้เงินคืนมาอย่างน้อยก็ 70% ของเงินที่ตั้งสำรองราว 120 ล้านบาท แต่คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร" นายชัยภัทร กล่าว
“ยังคงมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ คาดว่าตลาดหุ้นยังจะอยู่ในภาวะทรง ๆ ตามทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ปัจจุบัน บริษัทมีบัญชีลูกค้ากว่า 8 หมื่นบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอราว 3 หมื่นบัญชี”
ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ปัจจุบันบริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ภายในปีนี้ 2 บริษัท ซึ่งอยู่ในธุรกิจมีเดีย คอนเทนท์ และธุรกิจวิศวกรรม นอกจากนี้ยังมีงานที่ปรึกษาการควบรวมกิจการอีก 2-3 แห่งที่คาดว่าจะข้อสรุปภายในปีนี้
นายชัยภัทร กล่าวถึงกรณีหนี้ของบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ว่าเกิดจากกรณีที่ผู้บริหารและนักลงทุนทั่วไปนำหุ้น EARTH มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท แต่ขณะนี้หุ้น EARTH ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ไว้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่นำหุ้นมาเป็นหลักประกันส่วนใหญ่มีฐานะที่ค่อนข้างดี บริษัทจึงเชื่อว่าจะสามารถเรียกคืนหนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 70%
"มีบุคคลหลายกลุ่มทั้งผู้บริหาร ทั้งนักลงทุนทั่วไปที่นำหุ้น EARTH เข้ามาเป็นหลักประกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่มีฐานะดีกันทั้งนั้น เราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาที่ดำเนินการทางกฏหมายแล้วจะได้เงินคืนมาอย่างน้อยก็ 70% ของเงินที่ตั้งสำรองราว 120 ล้านบาท แต่คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร" นายชัยภัทร กล่าว