ที.ซี.เจ. เอเซีย โชว์กำไรครึ่งปีแรก 41.48 ล้านบาท เติบโต 243.5% และมีรายได้งวด 6 เดือน แตะ 618 ล้านบาท เติบโต 28.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านผู้บริหาร มั่นใจ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิมยังเติบโต-ภาษีดี คว้างานตบแต่งสถานีรถไฟฟ้าต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจปีนี้รายได้โต 10% ตามเป้า หลัง 6 เดือนแรกรายได้สุดหรู
ดร.ทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TCJ เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2560) บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 794.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 618.48 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจในกลุ่มโลหะเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยหลักผลักดันให้กำไรเพิ่มขึ้น โดยกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทฯ ทำได้ 41.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 243.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิราว 12.18 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องตามแผนงานที่บริษัทฯ ได้วางไว้
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2560 (เม.ย.-มิ.ย. 2560) มีรายได้ 323.50 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/2559 ที่มีรายได้ 337.17 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.56 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาขายในตลาดลดต่ำลง ส่งผลให้บริษัทต้องลดราคาลงตาม อย่างไรก็ดี บริษัทฯ คาดว่า แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีจะไม่มีผลกระทบจากราคาขายในตลาดลดต่ำลงเช่นในช่วงไตรมาส 2/2560 เนื่องจากทิศทางของอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ค่อนข้างมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,245.38 ล้านบาท เนื่องจากคาดจะได้รับผลบวกจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของภาครัฐ ประกอบกับปัจจุบัน บริษัทฯ ขยายธุรกิจเป็นที่มั่นคง ได้แก่ ธุรกิจให้เช่าเครื่องจักรกลหนักในการสร้างงานโครงสร้างพื้นฐานการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม การจัดจำหน่ายวัสดุโลหะภัณฑ์และเครื่องจักรกล และงานรับประกอบติดตั้งสถานีรถไฟฟ้าและคอนโดมิเนียมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้โดยประมาณ จากการขายแผ่นเหล็กและผลิตท่อสแตนเลส 35% จากการให้เช่าเครื่องจักรกล 35% และจากการซื้อขายเครื่องจักรกล วัสดุอุปกรณ์ รวมงานประกอบและติดตั้งอีก 30%
“เรามั่นใจในพื้นฐานของบริษัท และ TCJ ยังเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพประกาศนียบัตร 3A และประกาศนียบัตร Heat Exchanger ทำให้ได้มีโอกาสจัดจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิมประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ให้แก่บริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของโลกทั้งสองบริษัท ได้แก่ Alfa Laval และ Tetra Pack ซึ่งเราได้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิมหลายประเภท และประเภทที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย คือ ท่อที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร สัดส่วนที่มีจำนวนมาก คือ ท่อที่ใช้ในการผลิตน้ำตาล ส่วนท่อที่ใช้ในโรงงานอาหารและเครื่องดื่มอื่น ได้แก่ อาหารกระป๋อง, นม, น้ำอัดลม, น้ำผลไม้ และเบียร์ เป็นต้น” ดร.ทรงวุฒิ กล่าว
นายทัสชน ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความหลากหลายทางธุรกิจ เช่น งานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ, อุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืองานอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง “TCJ” ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่งานฐานล่างสุดจนถึงงานตบแต่ง
นอกจากนี้ TCJ รับงานตบแต่งสถานีรถไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูง โดยถือว่าเป็นผลจากการที่บริษัทฯ สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนาน ทำให้ “TCJ” ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ประกอบและติดตั้งโลหะภัณฑ์ (Metal Fabricator) ที่ให้บริการครบวงจร และไม่เพียงความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับงานในทุกขนาด ทุกโครงการ
“จะเห็นได้ว่า โครงการลงทุนรถไฟฟ้าหลายสายได้เริ่มลงนามในสัญญาก่อสร้าง ทำให้เริ่มเห็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเริ่มขับเคลื่อน รวมถึงกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ เช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่า การให้บริการให้ เช่ารถเครน ซึ่งเป็นด่านแรกของการก่อสร้าง เกิดความคึกคักตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/60 และคาดว่า อัตราการใช้กำลังการผลิตน่าจะเต็มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาส 1/61” นายทัสชน กล่าวทิ้งท้าย