xs
xsm
sm
md
lg

พฤกษาฯ ชี้อสังหาฯ ปี 60 โตกระจุก-แย่กระจาย บ้านหรูแชร์ตลาดร้อยละ 56

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปิยะ ประยงค์
“พฤกษา” เผยผลการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรกรายได้ 20,554 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 14 สวนทางยอดขายรวมที่เติบโตร้อยละ 20.9 กำไรสุดทธิ 2,425 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 21.1 ชี้ตลาดรวมปี 60 ยังเติบโต คาดทั้งปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 7 สูงกว่าประมาณการ สะท้อนตลาดเริ่มฟื้นตัว “ประเสริฐ” ระบุที่อยู่อาศัยปีนี้โตกระจุกตลาดบน กลาง-ล่างยังแย่ เหตุยังได้รับปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ระดับสูง ชี้ “Japanese Effacet” หนุนรายใหญ่ปรับโครงสร้างองค์กรหลังร่วมทุนญี่ปุ่น เพื่อดึงเม็ดเงินขยายการลงทุนตลาดพรีเมียม เสริมจุดแข็ง จับกลุ่มกำลังซื้อสูง

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลดำเนินธุรกิจ 6 เดือนแรกของปี 60 พฤกษาฯ สามารถสร้างยอดขายได้ 26,150 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายรวม 21,635 ล้านบาท ร้อยละ 20.9 เนื่องจากมีการเปิดขายคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการ ขณะที่รายได้อยู่ที่ 20,554 ล้านบาท ลดลงจากครึ่งปีแรกของปี 59 ที่มีรายได้รวม 23,888 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14 ขณะที่กำไรสุทธิ 6 เดือนแรก อยู่ที่ 2,425 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 3,073 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 21.1

“อย่างไรก็ตาม ทั้งในส่วนของรายได้ และยอดขายนั้น ยังคงอยู่ใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้ โดยในส่วนของยอดขายครึ่งปีแรก อยู่ที่ 26,150 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.4 ของเป้าทั้งปีที่วางไว้ 52,900 ล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 20,554 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40.9 ของเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 50,200 ล้านบาท”

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ 6 เดือนแรก มียอดขายเติบโตที่ร้อยละ 15.9 สูงกว่าประมาณการ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่าทั้งปีตลาดรวมจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 7 สะท้อนให้เห็นว่า ภาคอสังหาฯ เริ่มมีการฟื้นตัว เนื่องจากผู้ประกอบการมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงพฤกษาฯ ที่มีการรุกตลาดพรีเมียมเพื่อขยายฐานลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง และมีการขยายธุรกิจอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง”

โดยในครึ่งปีแรก กลุ่มธุรกิจแวลู เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 31 โครงการ และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 35 โครงการ ตามแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้รวม 66 โครงการ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 58,300 ล้านบาท และ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Projects) ทั้งหมดอยู่ที่ 183 โครงการ มูลค่า 94,901 ล้านบาท และมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของกลุ่มธุรกิจแวลู อยู่ที่ 23,284 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 11,629 ล้านบาท

นอกจากนี้ การปรับกลยุทธ์ของพฤกษาฯ ซึ่งใช้กลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยการออกแบบฟังก์ชัน และดีไซน์ ที่เน้นมูลค่าเพิ่ม (Smart Product) ในทุกโครงการทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ขณะที่ตลาดต่างจังหวัด บริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ไม่ว่าจะเป็น ชลบุรี ระยอง เนื่องจากมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จากการที่ภาคเอกชนได้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว คาดว่าทั้งปีจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานที่วางไว้
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม กล่าวว่า สภาพตลาดตราสารหนี้ที่ยังผันผวน ส่งผลต่อการออกตั๋ว B/E และการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นของบริษัทเอกชน ส่งผลให้บริษัทอสังหาฯ ที่ต้องการระดมเม็ดเงินเพื่อขยายการลงทุนในตลาดใหม่ ๆ ต้องหาผู้ร่วมทุนในการขยายตลาดเพื่อลดภาระด้านต้นทุนทางการเงิน ซึ่งกลุ่มทุนญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่นำเงินสดเข้ามาลงทุนอย่างแท้จริง ไม่ได้เข้ามาร่วมทุนเพียงอาศัยแบรนด์ หรือเทคโนโลยี จึงเป็นที่มาของการร่วมทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลจากการร่วมทุนดังกล่าวทำให้ปี 60 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจอสังหาฯ เพราะมีการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทระดับท็อป 10 ที่ดึงกลุ่มทุนด้านอสังหาฯ จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาร่วมทุน ซึ่งปัจจุบัน ขนาดการลงทุนของกลุ่มทุนจากญี่ปุ่นในธุรกิจอสังหาฯ เป็นรองเพียงอุตสาหกรรมรถยนต์ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมากในระยะต่อไป เรียกได้ว่า “Japanese Effacet” เพราะแทบทั้งหมดของการร่วมทุนเป็นกลุ่มทุนจากญี่ปุ่นทั้งหมด ซึ่งเกิดจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ในปัจจุบันต้องการเงินทุนใหม่ เทคโนโลยี และสเปซดีไซน์ใหม่ ๆ จากญี่ปุ่น เข้ามาเสริมจุดแข็ง และโดยมาก ตลาดที่บริษัทร่วมทุนเข้ามานั้น จะจับตลาดบนของแต่ละเซ็กเมนต์ทั้งสิ้น

ดังนั้น การที่พฤกษาฯ เข้าสู่ตลาดพรีเมียมเป็นการเดินทางที่ถูกต้อง โดยสะท้อนจากตัวเลขในครึ่งปีแรกของตลาดรวมที่มีมูลค่าเติบโตถึงร้อยละ 16 ขณะที่จำนวนยูนิตขยายตัวร้อยละ 8 โดยเป็นตลาดบนที่มีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต กว่าร้อยละ 56 หมายความว่า ตลาดบนที่มีมูลค่า 198, 562 ล้านบาทในครึ่งปีแรกนั้น เกิดจากการขยายตัวของตลาดบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่โตมากที่สุด

“การเติบโตของตลาดบนที่แชร์อยู่ในตลาดรวมถึง 56% นี้ เป็นการเติบโตแบบกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มเดียว “เรียกได้ว่าโตกระจุก แย่กระจาย” เพราะขณะที่กลุ่มบนโต ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ ติดลบ หรือขยายตัวน้อยมาก โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่าง เนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ ทั้งนี้กลุ่มที่จับตลาดบนนั้น ยังเป็นกลุ่มที่จำกัด คือ กลุ่มรายใหญ่ในตลาด ทำให้การขยายตัวของยอดขายกระจุกอยู่ที่รายใหญ่ในตลาดในกลุ่มท็อป 5 หรือ ท็อป10 เท่านั้น”

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พฤกษาฯ ประสบความสำเร็จในการรุกตลาดพรีเมียมเป็นอย่างสูงจนเป็นที่จับตามองในวงการธุรกิจอสังหาฯ จะเห็นได้จากยอดขายของโครงการ “เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ” ที่ปิดการขาย 100% ในเวลาแค่ 2 สัปดาห์ และ “แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ” ที่ปัจจุบันใกล้จะปิดการขายแล้ว โดยทั้งสองโครงการจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2562 เร็ว ๆ นี้จะเปิดตัวโครงการใหม่ “เดอะรีเซิร์ฟ พหลโยธิน-ประดิพัทธิ์” มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท ย่านประดิพัทธ์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพสูง ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อน สถานีจตุจักร-แบริ่ง และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ-หัวลำโพง ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ โดยธุรกิจพรีเมียม มีแผนจะเปิดโครงการรวม 6 โครงการ มูลค่า 9,900 ล้านบาท มั่นใจว่า ทุกโครงการจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการวางกลยุทธ์ที่รัดกุม


กำลังโหลดความคิดเห็น