xs
xsm
sm
md
lg

ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ คาดครึ่งปีหลังสวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ เชื่อผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หลังรับรู้รายได้จาก Backlog แต่ยอมรับว่า สินค้าทางเลือกราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลต่อมูลค่างานโครงการแต่ละแห่งลดลงกระทบรายได้ เล็งปรับเป้ารายได้โตเหลือ 5-10% จากเดิมคาดโต 15% จากปีก่อน แต่เน้นรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ให้ต่ำกว่า 30%

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซันของบริษัทฯ ซึ่งปกติจะสร้างรายได้ประมาณ 55-60% ของรายได้รวม ขณะที่ครึ่งปีแรกสร้างรายได้อยู่ที่ 40-45% ของรายได้รวม คาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้กว่า 60% มาบันทึกในช่วงครึ่งปีหลังจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการล่าช้า มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ไปรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้ มูลค่างานคงค้างในมือประมาณ 1 พันล้านบาท จะสามารถรับรู้ในปีนี้เกือบทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการรายได้เติบโต 5-10% จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% โดยปัจจัยหลักประกอบด้วย งานโครงการมีการแข่งขันเข้มข้น, สินค้าทางเลือกราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลให้มูลค่างานโครงการลดลงด้วย, รายได้ค้าส่ง ค้าปลีก ลดลงจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว ผนวกกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ รายได้จากการส่งออกลดลง เนื่องจากการเลื่อนส่งมอบงาน และการตั้งสำนักงานล่าช้าในประเทศเวียดนาม รวมทั้งในปีนี้ซูเปอร์สโตร์รายหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ชะลอการลงทุนจากปีที่แล้ว บริษัทฯ ได้จำหน่ายโคมไฟ LED ให้จำนวนมาก ทั้งนี้ แม้ว่าการเติบโตของรายได้ลดลงแต่คาดว่า กำไรสุทธิจะเติบโตจากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 74.1 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2560 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 575 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 10% สำหรับงวด 6 เดือนแรก มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,124 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,312 ล้านบาท หรือลดลง 14% สาเหตุจากการเลื่อนส่งมอบงานหลายโครงการ และการแข่งขันที่เข้มข้น ทำให้บริษัทฯ ต้องนำเสนอสินค้าทางเลือกที่มีราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลให้รายได้งานโครงการอยู่ที่ 394 ล้านบาท ลดลง 6% ส่วนงานค้าส่งค้าปลีกรายได้อยู่ที่ 150 ล้านบาท หรือลดลง 9% เป็นผลจากการกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อ่อนตัวลง และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับงานส่งออกรายได้อยู่ที่ 31 ล้านบาท หรือลดลง 40% เป็นผลจากการเลื่อนส่งมอบงานในประเทศเวียดนาม รวมทั้งในปีที่แล้ว บริษัทฯ ได้ขายโคมไฟฟ้า LED จำนวนมาก เพื่อใช้ติดตั้งในซูเปอร์สโตร์รายหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย แทนของเดิมเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ซูเปอร์สโตร์ดังกล่าวได้ชะลอการลงทุนในปีนี้

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2560 อยู่ที่ 8.4 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 3.2 ล้านบาท หรือลดลง 28% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นจากการขายและให้บริการ รวมรายได้อื่น ลดลง 2.7 ล้านบาท หรือลดลง 1% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมดอกเบี้ยจ่ายลดลง 0.4 ล้านบาท หรือลดลง 0.2% และภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก กำไรสุทธิอยู่ที่ 11.7 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.5 ล้านบาท หรือลดลง 13%

“ครึ่งปีแรกของปีนี้รายได้จากการขายและให้บริการ อยู่ที่ 1,124 ล้านบาท ลดลง 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.7 ล้านบาท ลดลง 13% แม้ว่าผลประกอบการลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นปกติของบริษัทฯ ที่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นไฮซีซัน และบันทึกสัดส่วนรายได้มากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งปีนี้รายได้จะบันทึกในครึ่งปีหลังมากเป็นพิเศษ เพราะการรับรู้รายได้งานโครงการล่าช้า และปีนี้ L&E ผลประกอบการยังเติบโตได้ในภาวะเช่นนี้ ทั้งรายได้และกำไรภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้น ในงานโครงการมีสินค้าด้านอุปกรณ์แสงสว่างทางเลือกที่ราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลต่อมูลค่างานโครงการโดยรวมลดลง รวมทั้งกำลังซื้อทั้งค้าส่ง ค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศชะลอตัว จึงปรับเป้ารายได้ แต่ในส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะดีกว่างวดปีก่อน”

“โดยพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 32% จากปีก่อนอยู่ที่ 29% แม้งานโครงการมูลค่าต่อโครงการลดลง แต่อัตรากำไรขั้นต้นกลับสูงขึ้น ส่วนสถานการณ์งานโครงการยังเติบโตทั้งห้างสรรพสินค้า ที่อยู่อาศัย รวมทั้งการเปลี่ยนอุปกรณ์แสงสว่างทดแทนของเดิม” นายปกรณ์ กล่าว
“ธุรกิจรับสร้างบ้าน” กับการปรับตัวรับการแข่งขันปี 59
“ธุรกิจรับสร้างบ้าน” กับการปรับตัวรับการแข่งขันปี 59
หากย้อนมองเมื่อช่วงก้าวสู่ศักราชใหม่ปีมะแม บรรดาผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ต่างมีความหวังกันว่าบรรยากาศทางการเมืองที่สงบลงจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และพลิกฟื้นกำลังซื้อให้กลับคืนมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป และก้าวเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2-3 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศกลับไม่เป็นดังที่คาดไว้ ตัวเลข และกราฟแสดงผลด้านเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มดิ่งหัวลง เช่นเดียวกับภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ผนวกกับเหตุระเบิดรุนแรงจากภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นกลางกรุงเมื่อเดือนสิงหาคมปี 58 ได้ซ้ำเติมให้ความเชื่อมั่น และกำลังซื้อผู้บริโภควูบหาย ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ ปริมาณ และมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศปี 2558 ที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น