บริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) หรือ SR แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 60 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ว่า มีมติดอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัท เทคโทรนิค โฮลดิ้ง จำกัด (T-Holding) ซึ่งมีบริษัท เทคโทรนิค จำกัด (T) เป็นบริษัทหลักที่ดำเนินธุรกิจด้านการออกแบบและติดตั้งสถานีวัดของไหล โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการจาก T-Holding มูลค่ารวม 313.45 ล้านบาท โดย T เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญที่แตกต่างจากของบริษัท ซึ่งจะเสริมความแข็งแกร่งของบริษัท และเพิ่มศักยภาพในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/60
สำหรับการชำระเงินจะแบ่งเป็นการชำระด้วยเงินสด 45 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ จำนวน 268.45 ล้านบาท จะชำระโดยหุ้นเพิ่มทุนซึ่งจะออกใหม่ จำนวน 76.7 ล้านหุ้น เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของ T-Holding ได้แก่ 1. นายต่อโชค เล้าลือชัย และ 2. นายชัชวาล เจตจำนงกิจ
ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท ซึ่งภายหลังการขายหุ้นและรับโอนกิจการดังกล่าวแล้ว นายต่อโชค และนายชัชวาล จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทรวม 11.42% จากเดิมถืออยู่ 0.10% โดยมีระยะเวลาการห้ามขาย (Lock-up) ตามสัดส่วนเป็นเวลา 5 ปี
ส่วนครอบครัววิมลเฉลา จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 54.09% จากดิม 61%, ครอบครัวณีศะนันท์ ถือหุ้น 8.50% จากเดิม 9.59% และครอบครัวมกรานนท์ ถือหุ้น 2.04% จากเดิม 2.30%
ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 338.35 ล้านบาท จากเดิมที่ 300 ล้านบาท โดยจะออกหุ้นใหม่ 76.7 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดจาก T-Holding ซึ่งการโอนกิจการทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 45 วัน ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการดังกล่าว หลังจากนั้น T-Holding จะยกเลิกบริษัทภายในปี 60 ขณะที่ T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท T-Holding ถือหุ้นใน T ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ และเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับกับอุปกรณ์ ควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ ตั้งสำนักงานอยู่ใน จ.ระยอง
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเข้าซื้อและรับโอนกิจการดังกล่าว จะช่วยช่วยเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยจะช่วยขยายสายงานการให้บริการ และการขายผลิตภัณฑ์ (Product and Service Line Extension) ให้แก่กลุ่มบริษัท ในกลุ่มธุรกิจการสร้างสถานีวัด (Metering) และกลุ่มระบบปั๊มอุตสาหกรรม ตลอดจนการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความได้เปรียบและความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และทำให้สามารถรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถเพิ่มโอกาสในการเปิดรับโครงการที่มีขนาดเล็กสำหรับธุรกิจการสร้างสถานีวัดก๊าซ (Gas Metering)
นอกจากนี้ ยังจะช่วยการบูรณาการองค์ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนากระบวนการให้บริการ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการออกแบบและติดตั้งสถานีวัดในพื้นที่ EEC
สำหรับการชำระเงินจะแบ่งเป็นการชำระด้วยเงินสด 45 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ จำนวน 268.45 ล้านบาท จะชำระโดยหุ้นเพิ่มทุนซึ่งจะออกใหม่ จำนวน 76.7 ล้านหุ้น เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของ T-Holding ได้แก่ 1. นายต่อโชค เล้าลือชัย และ 2. นายชัชวาล เจตจำนงกิจ
ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท ซึ่งภายหลังการขายหุ้นและรับโอนกิจการดังกล่าวแล้ว นายต่อโชค และนายชัชวาล จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทรวม 11.42% จากเดิมถืออยู่ 0.10% โดยมีระยะเวลาการห้ามขาย (Lock-up) ตามสัดส่วนเป็นเวลา 5 ปี
ส่วนครอบครัววิมลเฉลา จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 54.09% จากดิม 61%, ครอบครัวณีศะนันท์ ถือหุ้น 8.50% จากเดิม 9.59% และครอบครัวมกรานนท์ ถือหุ้น 2.04% จากเดิม 2.30%
ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 338.35 ล้านบาท จากเดิมที่ 300 ล้านบาท โดยจะออกหุ้นใหม่ 76.7 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดจาก T-Holding ซึ่งการโอนกิจการทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 45 วัน ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการดังกล่าว หลังจากนั้น T-Holding จะยกเลิกบริษัทภายในปี 60 ขณะที่ T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท T-Holding ถือหุ้นใน T ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ และเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับกับอุปกรณ์ ควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ ตั้งสำนักงานอยู่ใน จ.ระยอง
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเข้าซื้อและรับโอนกิจการดังกล่าว จะช่วยช่วยเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยจะช่วยขยายสายงานการให้บริการ และการขายผลิตภัณฑ์ (Product and Service Line Extension) ให้แก่กลุ่มบริษัท ในกลุ่มธุรกิจการสร้างสถานีวัด (Metering) และกลุ่มระบบปั๊มอุตสาหกรรม ตลอดจนการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความได้เปรียบและความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และทำให้สามารถรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถเพิ่มโอกาสในการเปิดรับโครงการที่มีขนาดเล็กสำหรับธุรกิจการสร้างสถานีวัดก๊าซ (Gas Metering)
นอกจากนี้ ยังจะช่วยการบูรณาการองค์ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนากระบวนการให้บริการ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการออกแบบและติดตั้งสถานีวัดในพื้นที่ EEC