“ศิริเลิศกรุ๊ป” กระจายพอร์ตธุรกิจจากงานรับเหมาก่อสร้างงานภาครัฐ สู่นักพัฒนาโครงการอสังหาฯ เครื่องร้อนผุดโปรเจกต์ 2 “ซายน์ สุขุมวิท 50” งัดแลนด์แบงก์ย่านพุทธมณฑล สาย 2 เนรมิตทำโครงการบ้านเดี่ยวหรูปลายปี เคาะขาย 18-20 ล้านบาท เปิดธุรกิจครอบครัว โครงการรีสอร์ตพูลวิลลา เกาะสมุย มูลค่าลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดให้บริการสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “ณ สัทธา อุทยานไทย” ปี 61
นายยุทธลักษณ์ ศิริพรเลิศ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ กล่าวว่า ธุรกิจหลักของครอบครัวที่ดำเนินงานมากว่า 30 ปี คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานอาคารภาครัฐ และได้ขยายไลน์ธุรกิจสู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การร่วมงานระหว่างตน และเครือญาติในชื่อ บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท กับการเปิดตัวโครงการแรก “ดิ แอล ฟิฟทีน คอนโดฯ” ลาดพร้าว 15 คอนโดฯ โลว์ไรส์ จำนวน 79 ยูนิต ปรากฏว่าสามารถปิดการขายได้ภายใน 1 เดือน
ล่าสุด ในปี 2560 บริษัทได้กลับมารุกการพัฒนาโครงการอสังหาฯ อีกครั้ง โดยกำหนดนโยบายในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในทุกเซ็กเมนต์ ขึ้นอยู่กับที่ดิน และโอกาสในการพัฒนา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการซื้อ (ดีมานด์) ในแต่ละทำเลที่เข้าไปพัฒนา ซึ่งจะเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาฯ จะมีการแข่งขันที่สูง แต่ยังมีช่องว่างในการเข้าไปทำตลาดได้ โดยชูในเรื่องของการออกแบบ (ดีไซน์) ที่มุ่งตอบสนองคนรุ่นใหม่ หาจุดขายที่แตกต่าง และราคาที่ได้เปรียบ เพราะมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดต้นทุนได้ 10-15%
ดังนั้น ในปีนี้จึงได้เปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “ซายน์ สุขุมวิท 50” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 บนพื้นที่โครงการประมาณ 254 ตารางวา พัฒนาเป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น ขนาด 26.14-50.23 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.55-7 ล้านบาท จำนวน 105 ยูนิต หรือเริ่มต้นที่ 105,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) มูลค่าโครงการประมาณ 340 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% และวางเป้าภายใน 3 เดือนจะปิดการขายได้หมด โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค. 2562
สำหรับเป้าหมายธุรกิจในระยะ 5 ปีในช่วงที่เข้ามาพัฒนาโครงการอีกรอบนั้น จะเปิดโครงการปีละ 1-2 โครงการ โดยเป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์ ยึดแนวรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว โดยตั้งเป้า 5 ปีแรกจะมียอดขาย 500 ล้านบาท และหลังจากนั้น จะเพิ่มเป็นปีละ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะนำที่ดินสะสมของครอบครัวย่านพุทธมณฑลสาย 2 เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ มาพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับบนแบรนด์ใหม่ ขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 18-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท และในปี 61 เตรียมหาที่ดินแปลงใหม่เพื่อพัฒนาคอนโดฯ พื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ จำนวนประมาณ 110-120 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังได้ไปซื้อที่ดินบริเวณหาดเฉวง และหาดละไม เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ 43 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นพูลวิลลา ประมาณ 100 หลัง ใช้เม็ดเงินในการลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เชนโรงแรมระดับอินเตอร์ฯ จากสหรัฐอเมริกา เข้ามาบริหารงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม” จ.ราชบุรี ที่ได้ปิดปรับปรุงมา 1 ปีเศษแล้ว เพื่อเสริมเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไป โดยจะมีรูปแบบการนำเสนอเรื่องเล่าบอกเล่ามากขึ้น และเปลี่ยนชื่อสถานที่ใหม่เป็น “ณ สัทธา อุทยานไทย” คาดว่าจะพร้อมเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี 2561.