ตลท. เผย บจ. ไทยใช้เงินซื้อกิจการต่างประเทศกว่า 180,000 ล้านบาท ชี้รายได้เฉลี่ยต่อปีโตสูงกว่าในประเทศ
นางสาวปฐมาภรณ์ นิธิชัย นักวิจัย ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการวิจัยพบว่าในปี 2559 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย 198 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (เซต) ได้เข้าไปลงทุนทางตรงในต่างประเทศลักษณะการเข้าไปลงทุนจะใช้วิธีหาพันธมิตรการลงทุน เห็นได้จากสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุน 49% เป็นการลงทุนแบบซื้อกิจการอื่นทั้งหมด รองลงมา คือ ลงทุนในบริษัทย่อย และ 12% ลงทุนในกิจการร่วมค้า การเข้าลงทุนผ่านพันธมิตรจะทำให้การดำเนินกิจการทำได้ทันที รวดเร็วกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเข้าไปสร้างโรงงาน หรือฐานการผลิตเอง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในระยะยาว ในช่วงปี 2549-2559 บจ. มีรายได้จากต่างประเทศเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ขณะที่รายได้ในประเทศเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี หากพิจารณารายอุตสาหกรรมพบว่ามี 5 กลุ่มอุตสาหกรรมที่รายได้จากต่างประเทศเติบโตในอัตราที่สูงกว่ารายได้ในประเทศ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการ
สำหรับมูลค่าการลงทุนในปี 2559 บจ. ไทยมีมูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศทั้งสิ้น 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีมูลค่าลงทุน 75,000 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการลงทุนขนาดใหญ่เกิน 10,000 ล้านบาท จาก 3 บริษัทที่ตัดสินใจลงทุนในทวีปอเมริกา คือ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ซื้อกิจการของ Bellisio Parent ในสหรัฐฯ มูลค่า 39,000 ล้านบาท บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เพิ่มเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ประเทศแคนาดา มูลค่า 22,000 ล้านบาท และ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ซื้อกิจการโรงงานเคมีภัณฑ์ในสหรัฐฯ มูลค่า 15,000 ล้านบาท
