บล. โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยรับปัจจัยบวกจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น และแบงก์ชาติมองแนวโน้ม ศก.ไทยครึ่งหลังปี 60 สดใสกว่าครึ่งปีแรกจากการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,570-1,600 จุด แนะนำหุ้นที่ผลงานไตรมาส 2/60 เติบโตเด่นชู CK-BEM-BANPU-LH-HARN-LIT-BIZ-MGT ด้านแนวโน้มราคาทองคำ ลุ้นรีบาวนด์ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ยูโรโซน และจีนในเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น และค่าดัชนีสูงกว่าระดับ 50 จุด บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตยังคงขยายตัว ประกอบกับราคาน้ำมันรีบาวนด์ขึ้น หลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐฯ ลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 756 แท่น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2560 โตดีกว่าครึ่งปีแรกจากลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. 60 ลดลงร้อยละ 0.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติผันผวนต้นเดือน ก.ค. พลิกเป็น Net buy เล็กน้อย แต่ในปีนี้ Fed จะเริ่มปรับลดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ รวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีความเข้มงวดขึ้น
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจเดือน มิ.ย. ลดลงจาก 52.3 มาอยู่ที่ระดับ 50.7 ตามยอดขาย-ผลประกอบการ หลังใช้จ่ายในประเทศยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็ง และเดือน ส.ค. แบงก์ชาติเตรียมออกมาตรการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนกดดันรายได้กลุ่มแบงก์
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา สัปดาห์นี้เป็นช่วง Preview งบไตรมาส 2/2560 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึง 5 ก.ค. ประชุม กนง. และรายงานนโยบายการเงินในวันที่ 14 ก.ค. เช้าวันที่ 6 ก.ค. คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย. วันที่ 6 ก.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย. จาก ADP ตัวเลขดุลการค้าเดือน พ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน มิ.ย. และในวันที่ 7 ก.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย.
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่รีบาวนด์ขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักงบไตรมาส 2/2560 ที่เริ่ม Preview และจะประกาศตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังไม่มีสัญญาณไหลเข้าที่ชัดเจนจะกดดันให้ภาวะตลาดมีความผันผวน ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570-1,600 จุด
ดังนั้น แนะนำซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มที่คาดว่า งบไตรมาส 2/60 จะเติบโต ได้แก่ CK, BEM, BANPU, LH, HARN, LIT, BIZ และ MGT
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล. โกลเบล็ก เปิดเผยว่า บริเวณ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่เป็นเป้าหมายระยะสั้นของการปรับลงตามแนวโน้มปัจจุบัน คาดการณ์โอกาสที่ราคาจะแกว่งคาบเกี่ยวแนวระดับดังกล่าวมีลดลง หากชาติมหาอำนาจมีการตอบโต้กันอย่างตรงไปตรงมาในประเด็นที่เกาหลีเหนือเพิ่งประกาศความสำเร็จหลังยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป และการที่สหรัฐฯ เคลื่อนเรือรบเข้าสู่เขตทะเลจีนใต้นับเป็นประเด็นความเสี่ยงในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจคาดหวังเห็นการรีบาวนด์ของราคาทองคำใช่วงสั้น แต่ถ้าเป็นแค่การตอบโต้กันทางวาจา และมีแนวโน้มจะมุ่งเน้นไปที่การเจรจา จะไม่ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ คำเตือนของ Fed เกี่ยวกับความร้อนแรงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ไม่ได้ลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดลง ส่งผลให้เงินทุนยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง จึงประเมินราคาทองคำมีเป้าหมายลงทดสอบระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ และแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรดักรอบรีบาวนด์เพียงบางส่วนของพอร์ต แต่ไม่แนะนำให้ซื้อสะสมสำหรับพอร์ตลงทุนระยะกลางถึงยาว