กรมศุลกากรคุมเข้มอุดรูรั่ว หลังรายได้ 6 เดือนแรก หายไปหมื่นล้านบาท ยืนยันเดินหน้าประมูลรถยนต์ และบิ๊กไบค์ของกลาง 291 คัน 6 ก.ค. นี้
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวระหว่างการร่วมงานวันคล้ายสถาปนากรมศุลกากร 143 ปีว่า ยอดจัดเก็บภาษี 6 เดือนแรกของปี ทำยอดรายได้ 80,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท สาเหตุจากการปรับโครงสร้างภาษีระยะ 2 ทำให้รายได้ภาษีหายไป 3,000 ล้านบาท การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีของเขตการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ ทำให้ภาษีหายไป 4,000 ล้านบาท และสิทธิพิเศษการผลิตสินค้ารถยนต์ในอาเซียน หายไป 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมศุลกากรจึงมีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี และการอุดรูรั่ว 3 ด้าน ได้แก่ การคุมเข้มสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง, การสำแดงราคาสินค้านำเข้าเป็นเท็จ, การแจ้งถิ่นกำเนิดสินค้า และปริมาณสินค้าอันเป็นเท็จ มุ่งคุมเข้มด่านศุลกากร 5 ด่าน ซึ่งจัดเก็บอากรสัดส่วนร้อยละ 92 ของรายได้ภาษีทั้งหมด เช่น ด่านศุลกากรกรุงเทพฯ (คลองเตย), ด่านศุลกากรแหลมฉบัง, ด่านศุลกากรลาดกระบัง, ด่านศุลกากรสุวรรณภูมิ มุ่งเน้นคุมสินค้าหลัก เช่น สินค้าเกษตร, ไอที, รถยนต์, เครื่องจักร, เภสัช เตรียมประเมินผลงานในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าหมาย 105,000 ล้านบาท
รวมทั้งการตั้งศูนย์ข้อมูลคลังสินค้า เพื่อรวบรวมข้อมูลสินค้าอย่างเป็นระบบ หวังอำนวยความสะดวกการนำเข้า ส่งออกสินค้า ผ่านพันธมิตรเอกชน นำเข้าส่งออก 325 ราย ด้วยการใช้ระบบกรีนการ์ด หากได้สีเขียวจะพิจารณาอำนวยความสะดวกอย่างรวดเร็ว หากชิปปิง หรือเอกชนรายใดกระทำผิดบ่อยซ้ำซากต้องคุมเข้ม หรือได้ใบแดงต้องติดตามเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อรองรับเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น ลาซาด้าพร้อมให้บริการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าออนไลน์ นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังเร่งออกประกาศกรมศุลกากรเกี่ยวกับเกณฑ์การบริหารความเสี่ยง มาตรา 317 เพื่อคุมเข้มการสำแดงราคารถยนต์นำเข้า ขณะนี้เตรียมรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าประกาศสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อต้องการให้เอกชนผู้นำเข้าสำแดงราคานำเข้าตรงกับความจริง
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวยืนยันว่า การประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของกลางอีกครั้ง โดยวิธีประมูลด้วยวาจา วันที่ 6 กรกฎาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ กรมศุลกากร คลองเตย มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อต่าง ๆ จำนวน 291 คัน ยืนยันว่ารถดังกล่าวนำไปขอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ไม่มีปัญหา ส่วนรถยนต์ 28 คัน กรมขนส่งทางบกตรวจสอบว่า จดทะเบียนไม่ได้ ต้องพิจารณาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่มั่นใจว่ารถประมูลครั้งนี้มีคุณสมบัติถูกต้อง