กคช. สานต่อนโยบายรัฐ ช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ลุยจัดงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 คัดที่อยู่อาศัย 148 โครงการ 20,817 หน่วย เปิดให้ประชาชนผู้สนใจจองซื้อระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.-9 ก.ค. 60 พร้อมพัฒนานวัตกรรมระบบการให้บริการค้นหาบ้านว่างพร้อมขาย และจองผ่านระบบจองบ้านออนไลน์ ตอบสนองนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” รัฐบาล
ดร. ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึงการจัดงานโครงการบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 ว่า เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่สามารถผ่อนชำระได้ ทั้งยังต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามเจตนารมณ์ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ คัดสรรโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อให้ประชาชนได้จอง จำนวน 148 โครงการ 20,817 หน่วย ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย.- 9 ก.ค. 60 ณ สำนักงานใหญ่ กคช. สำนักงานขายที่มีโครงการตั้งอยู่ และศูนย์ขาย 12 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับรูปแบบโครงการบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 4,865 หน่วย, บ้านแฝด 1,462 หน่วย, ทาวน์เฮ้าส์ 522 หน่วย, ทาวน์โฮม 1,051 หน่วย, อาคารพาณิชย์ 48 หน่วย และอาคารชุด 12,869 หน่วย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1. โครงการบ้านสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 90 โครงการ 10,614 หน่วย ราคาขายอยู่ระหว่าง 242,000-2,600,000 บาท มีทำเลที่ตั้งในกรุงเทพฯ เช่น รามอินทรา (ซอยคู้บอน), ปัญญารามอินทรา, ลาดกระบัง 2 และร่มเกล้า ส่วนทำเลที่ตั้งในปริมณฑล เช่น จ. นนทบุรี (บางบัวทอง, วัดกู้, ซอยกันตนา) จ. ปทุมธานี (รังสิต, สี่แยกปทุมวิไล, ลาดหลุมแก้ว) จ. นครปฐม (ท่าตำหนัก, บ่อพลับ, ศาลายา, พุทธมณฑล) จ. สมุทรปราการ (บางนา, ขจรวิทย์, แพรกษา) จ. สมุทรสาคร (บางกระเจ้า, เศรษฐกิจ, กระทุ่มแบน) และในพื้นที่ภูมิภาค เช่น ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, ระยอง, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ยโสธร, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี, แพร่, ลำปาง, อุตรดิตถ์ และภูเก็ต
2. โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 38 โครงการ จำนวน 4,600 หน่วย ราคาขายอยู่ระหว่าง 480,000-4,450,000 บาท มีทำเลที่ตั้งในกรุงเทพฯ เช่น ร่มเกล้า, ลาดกระบัง, หนองจอก, บางขุนเทียน ส่วนทำเลที่ตั้งในปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี (บางบัวทอง, วัดกู้, ซอยกันตนา), ปทุมธานี (ตลาดไท), นครปฐม (สระสี่มุม), สมุทรปราการ (บางบ่อ, บางปู, เทพารักษ์), สมุทรสาคร (เศรษฐกิจ) และในพื้นที่ภูมิภาค เช่น พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ลพบุรี, กาญจนบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, ลำปาง, พิษณุโลก, เชียงใหม่, ตาก, กำแพงเพชร, บุรีรัมย์, อุดรธานี, ขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี, ตรัง, นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต และกระบี่
3. โครงการที่เปิดขายใหม่ จำนวน 20 โครงการ 5,603 หน่วย มีทำเลที่ตั้งในปริมณฑล ได้แก่ ปทุมธานี (รังสิต) และ สมุทรปราการ (เทพารักษ์, บางปู) ส่วนทำเลที่ตั้งในภูมิภาค เช่น สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, กาฬสินธุ์, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ขอนแก่น, นครสวรรค์, สุราษฎร์ธานี, ตรัง และภูเก็ต
ทั้งนี้ ลูกค้าที่จองโครงการบ้านเคหะประชารัฐ จะได้รับสิทธิพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทุกโครงการ ลูกค้าสามารถเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 30 โครงการ โดยรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% หรือสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อเป็นการเช่าในลักษณะโครงการเช่าเพื่อซื้อ หรือ Rent to buy เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 24 โครงการ หรือเลือกรับอัตราดอกเบี้ยโครงการบ้านประชารัฐ จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน เฉพาะโครงการที่มีราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
โดยมีอัตราการผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนด หรือจะเลือกรับอัตราดอกเบี้ยตามโครงการบ้านกตัญญูของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน (ตามเงื่อนไขของธนาคาร) หากจองโครงการที่เปิดขายใหม่ จำนวน 20 โครงการ 5,603 หน่วย ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ จะกันที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุไว้ร้อยละ 10 ของจำนวนหน่วยก่อสร้าง โดยอาคารแนวราบจะอยู่ใกล้สวนสาธารณะ ส่วนอาคารแนวสูงจะมีห้องพักอาศัยสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ บริเวณชั้น 1 พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ
สำหรับหลักฐานที่ประชาชนที่สนใจจองซื้อบ้านในโครงการดังกล่าวต้องใช้ในการจองซื้อโครงการดัง ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี), หนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ตนเอง และเงินจองตั้งแต่ 1,000 บาท สำหรับคุณสมบัติของผู้จอง ประกอบด้วย มีสัญชาติไทย และบรรลุนิติภาวะแล้ว มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน สำหรับการจองโครงการที่ราคาไม่เกิน 740,000 บาท และไม่จำกัดรายได้สำหรับการจองโครงการที่ราคาเกิน 740,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาล การเคหะแห่งชาติได้พัฒนานวัตกรรมระบบการให้บริการค้นหาบ้านว่างพร้อมขาย และจองผ่านระบบจองบ้านออนไลน์ขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย และบริการข้อมูลให้กับประชาชนที่สนใจจะจองโครงการ สามารถจองได้ง่าย ๆ ผ่าน http://house.nha.co.th บนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งการเคหะแห่งชาติ ได้นำโครงการที่เปิดจองในครั้งนี้ จำนวน 48 โครงการ 4,044 หน่วย นำมาออกขายในระบบจองบ้านออนไลน์ด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถนำใบจอง หรือบาร์โค้ดไปชำระเงินที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ, สำนักงานเคหะชุมชน และเคาน์เตอร์เซอร์วิส
นอกจากการจองที่อยู่อาศัยในงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐฯ แล้ว ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารออมสิน, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี จำกัด (มหาชน) มาให้บริการสินเชื่อกับลูกค้าภายในงาน อีกทั้ง ธนาคารอาคารสงเคราะห์มาออกบูทนิทรรศการแอปพลิเคชัน Home for All คนไทยมีบ้าน เพื่อสำรวจความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมถึงกรมการค้าภายในจะนำสินค้าอุปโภค-บริโภคธงฟ้า มาจำหน่ายในราคาประหยัด และยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ประชาชนได้เลือกซื้อกันตามอัธยาศัยอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจจองโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 เวลา 08.30-18.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ (เฉพาะสำนักงานใหญ่เปิดจองถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2560) สำนักงานขายที่มีโครงการตั้งอยู่ และศูนย์ขาย 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์ชุมชนบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 4 (บางปู), สำนักงานเคหะชุมชนสุขสวัสดิ์, ศูนย์ชุมชนบ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ 3, ศาลาประชาคมแหลมฉบัง, ศูนย์ชุมชนบ้านเอื้ออาทรระยอง (ตะพง), ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี กาฬสินธุ์, สำนักงานเคหะชุมชนสุรินทร์, ศูนย์ชุมชนบ้านเอื้ออาทรอยุธยา (โรจนะ), ห้างสรรพสินค้าทวีกิจ สระบุรี, ที่ว่าการอำเภอตาคลี จ.นครสวรรค์, สำนักงานเคหะชุมชนสุราษฎร์ธานี และสำนักงานเคหะชุมชนตรัง