กระทรวงการคลังและทีดีอาร์ไอ หนุนระบบ CoST ติดตามโครงการลงทุนภาครัฐ ขณะที่นักวิชาการแนะบังคับใช้กฎหมายไทยให้เข้มงวดควบคู่กับมาตรฐานต่างชาติ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวในงานสัมมนา “โครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ ( CoST)” โดยระบุว่า เมื่อรัฐบาลมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก และไทยเป็นสมาชิกโครงการ “คอสท์” (CoST : Construction Sector Transparency Initiative) ในปี 2558 จึงได้นำระบบ CoST มาใช้ติดตามดูแลความโปร่งใสในการลงทุน เพื่อติดตามระบบการเปิดเผยข้อมูลในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ หลังจากทดลองนำร่องติดตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ตั้งแต่ปี 2559 จนประสบความสำเร็จ จึงได้ขยายโครงการลงทุนไปยังการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3- ดาวคะนอง โครงการลงทุนของกรมการแพทย์ กระทรวงศึกษาธิการ กรมท่าอากาศยานในการพัฒนาสนามบินหลายแห่งในต่างจังหวัด เตรียมนำระบบ CoST มาใช้ในการติดตามการลงทุน
นอกจากนี้ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้กำหนดให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่นำระบบ CoST มาใช้ในการติดตามแผนการลงทุนให้เกิดความโปร่งใสในทุกขั้นตอนจากบุคคลภายนอก และหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนี้ สคร. ได้ร่วมกับกรมบัญชีกลางจัดทำเว็บไซต์เชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้ระบบ CoST ใช้ติดตามดูแลโครงการลงทุนของภาครัฐ มูลค่ากว่า 5.7 ล้านล้านบาท คิดเป็นครึ่งหนึ่งของการลงทุนก่อสร้างทั้งหมดของประเทศ นับเป็นการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน อ่างเก็บน้ำ โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า และสนามบิน
นางเดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า กฎหมายของไทยล้ำหน้าการดูแลความโปร่งใสหลายประเทศ แต่ไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจัง จึงทำให้โครงการลงทุนหลายหน่วยงานไม่ได้เปิดเผยอย่างแท้จริง ปัญหาปัจจุบันอยู่ที่การบังคับใช้อย่างจริงจัง แต่การมีระบบ CoST เข้ามาติดตามดูแลโครงการลงทุน เพราะเป็นเกณฑ์ของต่างชาติอาจทำให้คนไทยตื่นตัว เพราะเป็นมาตรฐานของต่างชาติอาจทำให้สังคมหันมาร่วมมือมากขึ้น แต่กฎเกณฑ์ของไทยเองกลับไม่ดำเนินการ และยอมรับว่ากฎหมายของไทยขณะนี้เปิดช่องให้ตีความว่า ข้อมูลใดควรเปิดเผย เรื่องใดไม่ควรเปิดเผยข้อมูลรัฐ เพราะที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีความผิดหากเปิดเผยข้อมูลของรัฐ
นายประยงค์ หิรัญญะวณิชย์ กรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทุกโครงการลงทุนในชนบทควรเปิดให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการติดตามโครงการลงทุน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเสนอให้ทุกหน่วยงานลงทุนเปิดเผยข้อมูลการลงทุนให้ประชาชนได้ติดตามโดยไม่ต้องให้บุคคลภายนอกมาบังคับ