กรมศุลกากร ขีดเส้น 15 มิ.ย. นี้ สรุปผลคดีโจรกรรมรถหรู 30 คัน สำแดงเท็จเลี่ยงภาษี ให้ดีเอสไอ
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ส่งข้อมูลคดีนำรถหรูที่ถูกโจรกรรม สำแดงเท็จ และเสียภาษีไม่ถูกต้อง 30 คัน มาให้กรมศุลกากรตรวจสอบนั้น ขณะนี้คณะทำงานที่มีรองอธิบดีกรมศุลกากรฝ่ายปราบปรามเป็นประธานกำลังเร่งตรวจสอบ โดยใช้มาตรฐานประเมินราคาที่ดีเอสไอส่งมาให้ มาประกอบเป็นข้อมูลในการคิดคำนวณภาษีนำเข้าเพื่อเรียกเก็บจากผู้ประกอบการนำเข้ารถหรูที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง รวมทั้งค่าปรับ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณีที่มีฐานความผิดที่แตกต่างกันไป เช่นความผิดฐานลักลอบนำเข้า ความผิดฐานสำแดงเท็จ โดยจะคำนวณภาษีและค่าปรับย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่นำเข้ารถมา นอกจากนี้ในวันที่ 8-9 มิถุนายน นี้ ตนเองจะเข้าร่วมประชุมกับคณะทำงาน ฯ เพื่อเร่งสรุปข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้เสร็จภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2560 เพื่อแจ้งกลับไปยังดีเอสไอ
นายกุลิศ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมศุลกากรกำลังเร่งรัดสรุปความคืบหน้าของ 3 คดี ประกอบด้วย คดีที่ 1. การสำแดงเท็จการนำเข้ารถหรูที่ถูกโจรกรรมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ คดีที่ 2. คือการตรวจสอบความผิดของข้าราชการกรมศุลกากร 9 คน ที่เกี่ยวข้องกับคดีการนำเข้ารถหรูในปี 2553 ซึ่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ให้ดำเนินการ และขณะนี้กระทรวงการคลังตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้ว เนื่องจากมีข้าราชการระดับ ซี 9 เกี่ยวข้อง และคดีที่ 3 เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการประเมินราคารถจดประกอบที่ถูกไฟไหม้ระหว่างการขนส่งเมื่อปี 2556 ซึ่งกรมศุลกากรได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ไปบางส่วน และ บางรายได้เกษียณอายุไปแล้ว ซึ่งทั้ง 3 คดีเกี่ยวข้องกับรถทั้งหมด ทางกรมศุลกากรจะเร่งสรุปและรายงานต่อกระทรวงการคลังให้เร็วที่สุด
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มด้วยว่า กรมศุลกากรกำลังรื้อระบบการประเมินราคากลาง ในการตรวจนำเข้ารถหรูผ่านด่านศุลกากรทั้งหมด โดยจะประสานกับดีเอสไอที่มีสนธิสัญญาข้อตกลงร่วมกันทางคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมเพื่อประสานขอข้อมูลราคารถที่แท้จริงจากต่างประเทศ เพราะที่ผ่านกรม ฯ ไม่มีมีข้อมูลราคากลางในการซื้อขายรถยนต์หรูที่อ้างอิงได้ ทำให้การตรวจสอบและประเมินราคามีข้อบกพร่อง โดยจะเร่งจัดทำราคากลาง ราคามาตรฐานรถหรูให้เสร็จโดยเร็วที่สุด