xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศ ESG100 ปี 60 ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์
สถาบันไทยพัฒน์ มุ่งมั่นยกระดับการลงทุนที่ยั่งยืน เดินหน้าจัดอันดับ ESG 100 ปี 60 ต่อเนื่องสู่ปีที่ 3 หวังผลักดัน 100 หลักทรัพย์จดทะเบียนโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance) ให้ผู้ลงทุนเป็นตัวเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน "มากกว่าเม็ดเงินกำไร"



อย่างไรก็ตาม หน่วยงาน ESG Rating ของสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่า กลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นปีที่สาม ด้วยการคัดเลือกจาก 656 บริษัทจดทะเบียน (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู) ทำการประเมินโดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG จาก 6 แหล่ง จำนวนกว่า 12,148 จุดข้อมูล ตามที่บริษัทเผยแพร่ไว้ต่อสาธารณะ ซึ่งการจัดอันดับหลักทรัพย์กลุ่ม ESG100 เป็นข้อมูลตั้งต้นที่ผู้ลงทุนสามารถใช้คัดเลือกหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน พร้อมกับการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

        
        
        
“การประเมินในปีนี้ สถาบันไทยพัฒน์ ยังคงใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ESG แบบบูรณาการที่ผนวกเข้ากับข้อมูลทางการเงิน ที่เรียกว่า Integrated ESG Assessment เพื่อให้สะท้อนผลตอบแทนการลงทุนหรือตัวเลขผลประกอบการที่สัมพันธ์กับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัท”
        
        
        
ทั้งนี้ ผลการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่เข้าอยู่ใน Universe ของ ESG100 ประจำปี 2560 ปรากฏว่าบริษัทที่ติดอันดับ กระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 8 กลุ่ม ประกอบด้วย
        
        
         กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) 11 บริษัท
         กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) 6 บริษัท
         กลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) 12 บริษัท
         กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) 16 บริษัท
         กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) 14 บริษัท
         กลุ่มทรัพยากร (Resources) 10 บริษัท
         กลุ่มบริการ (Services) 18 บริษัท
         กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 13 บริษัท
        
        
โดยบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ มากสุด คือ 18 บริษัท รองลงมาเป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม จำนวน 16 แห่ง และมีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาด mai เข้าอยู่ใน ESG100 จำนวน 10 บริษัท ได้แก่ ARROW, BKD, D, FPI, ITEL, PPS, SPA, TACC, TPCH, WINNER
        
        
นอกจากนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) รวมกันของหลักทรัพย์ ESG100 ในตลาด SET มีมูลค่าราว 6.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40.6 เมื่อเทียบกับมาร์เกตแคปของ SET ที่ 15.3 ล้านล้านบาท
        
        
อย่างไรก็ดี การจัดอันดับหลักทรัพย์กลุ่ม ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม นอกจากจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระดับการเปิดเผยข้อมูล ESG ของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะเป็นการเผยแพร่ข้อมูล ESG ของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินการได้ดีให้แก่ผู้ลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ เพิ่มโอกาสการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนจากกลุ่มผู้ลงทุนที่ใช้เกณฑ์ ESG เพื่อสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่น่าพอใจในระยะยาว พร้อมๆ กับการสร้างผลกระทบทางสังคมในเชิงบวก
 100 บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG 100
กำลังโหลดความคิดเห็น