xs
xsm
sm
md
lg

LHBANK ย้ำไร้ผลกระทบหลัง “อนันต์” พ้นเก้าอี้ ปธ.บอร์ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


LHBANK ย้ำ ไร้ผลกระทบหลัง"อนันต์ " พ้นเก้าอี้ปธ.บอร์ด แจงไม่มี"ตระกูลอัศวโภคิน"นั่งบริหาร

นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เซียล กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน ) (LHBANK) กล่าวว่า การที่นายอนันต์ อัศวโภคิน ลาออกจากประธานและกรรมการ LHBANK เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับธนาคาร และ ไม่มีผลกระทบต่อธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งทาง CTBC Bank Company Limited หรือ CTBC จากไต้หวัน ซึ่งเป็นพันธมิตรใหม่ก็ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และ ยืนยันไม่มีผลต่อการร่วมทุน

นายรัตน์ ย้ำว่า นายอนันต์ ไม่ได้ถือหุ้น LHBANK โดยตรงแม้แต่หุ้นเดียว เป็นการถือทางอ้อมผ่านทางบมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ ร้อยละ 10 และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ร้อยละ 2 เท่านั้น ส่วนอีกร้อยละ 88 เป็นผู้ถือหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้งในระดับคณะกรรมการบริหาร ( บอร์ด ) นายอนันต์เป็นเพียงประธานกรรมการเท่านั้น ส่วนกรรมการที่เหลือเป็นผู้บริหารมืออาชีพ และไม่มีคนในตระกูล"อัศวโภคิน" แม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ LHBANK ไม่สามารถถือหุ้นในบริษัทลูก และ ปล่อยเงินกู้ให้บริษัทในเครือได้ เนื่องจากผิดฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) และเป็นการลดทุนของบริษัท ส่วนตำแหน่งประธานกรรมการ LHBANK คนใหม่ ได้ส่งชื่อให้ธปท. พิจารณาคุณสมบัติแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากธปท. แล้ว

นายรัตน์ ย้ำอีกว่า สถาบันการเงินในไทยถูกกำกับโดย 3 หน่วยงาน คือ ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) อย่างเข้มข้น จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของLHBANK

นางศศิธร พงศธร ( ฉัตรศิริวิชัยกุล ) กรรมการผู้จัดการ LHBANK กล่าวถึงความคืบหน้าในการเป็นพันธมิตรกับ CTBC Bank Company Limited หรือ CTBC จากไต้หวัน ว่า CTBC จะนำเงินมาเพิ่มทุนในธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์จำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะทยอยนำเงินเข้ามาเพิ่มทุน ประมาณ 5-7 วัน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่จะมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 7,544 ล้านหุ้น เสนอขายให้ CTBC ในราคา 2.20 บาท ทำให้ CTBC มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ร้อยละ 35.617 เท่ากับบมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ รวมกัน คาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2560 และ จะช่วยให้การดำเนินงานของLHBANK เติบโตร้อยละ 10-15 ในระยะเวลา 5 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น