“คลัง” ส่งรายชื่อผู้มีรายได้น้อยตรวจคุณสมบัติ 11 ล้านราย ขณะที่เศรษฐกิจเดือนเมษายนมีทิศทางเป็นบวก
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังส่งรายชื่อผู้มีรายได้น้อยให้หลายหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งกรมการปกครอง กรมที่ดิน กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำนวน 11 ล้านราย จากผู้มีลงทะเบีนทั้งหมด 14 ล้านราย คาดใช้เวลา 1-2 เดือน ตรวจสอบคุณสมบัติครบทั้งหมด ขณะที่กระทรวงการคลังกำลังศึกษามาตรการช่วยเหลือเพิ่ม นอกจากการช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไฟฟ้า รถไฟ รถเมล์ รวมทั้งแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ซึ่งมีจำนวน 3 ล้านคน นอกจากนี้ ยังต้องศึกษาแนวทางหารายได้เข้ากองทุนชราภาพเพิ่มตามที่ ครม.เห็นชอบหลักการในการส่งเสริมให้คนชรามีรายได้สูงสละเงินดังกล่าวโอนเข้ากองทุน เพื่อจัดสรรให้กับคนชราที่มีรายได้น้อย และอาจใช้เงินภาษีสรรพสามิตสุรา ยาสูบ มาสมทบเพิ่ม
สำหรับภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนเมษายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกขยายตัวเป็นบวก และการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ขยายตัวได้ในระดับสูง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง เพราะเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่เดือนเมษายน 2560 ขยายตัวถึงร้อยละ 16.3 ต่อปี รายได้เกษตรกรที่แท้จริงเดือนเมษายน ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 30.6 ต่อปี ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ที่ร้อยละ 23.2 ต่อปี
ส่วนผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-เม.ย.60) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิหลังหักการจัดสรรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 1,223,594 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,946 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 สาเหตุจากการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 25,475 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.4 และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ 8,349 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.5 โดยภาษีที่จัดเก็บสูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเบียร์