ปลัดคลังเผยพร้อมเดินหน้า พ.ร.บ.กบข. มั่นใจสรรรหาเลขาฯ กบข.คนใหม่เร็วๆ นี้ ขณะที่ผลตอบแทนสมาชิก กบข.ปี 2559 ร้อยละ 5.10
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นประธานการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก เพื่อแจ้งผลการดำเนินงานปี 2559 กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.กบข.ว่า ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบหลักการจากคณะรัฐมนตรีแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจความเห็นจากตัวแทนสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยทุกประเด็นที่แก้ไขใน พ.ร.บ. ได้แก่ การรับโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน การส่งเงินสะสมไม่เกินร้อยละ 30 การเกษียณเกินอายุ 60 ปี สามารถถอนเงินสะสม เงินสมทบ ผลประโยชน์ออกไปได้ก่อน รวมทั้งสมาชิกออมต่อมีสิทธิเลือกแผนลงทุน กองทุนสามารถขยายขอบเขตลงทุนเงินสำรองมากขึ้น สามารถนำเงินประเดิม เงินชดเชย มาเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ และสมาชิกใหม่หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ หากไม่ใช้สิทธิเลือกแผนลงทุน กบข. สามารถบริหารเงินให้ในแผนสมดุลตามอายุ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการออกกฎหมายต่อไป
ขณะที่การลาออกของนายสมบัติ นราวุฒิชัย เนื่องจากคะแนนประเมินการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 75 จะต้องออกจากตำแหน่งตามสัญญาจ้างงาน แต่ทางคณะกรรมการได้ให้โอกาสปรับปรุงแก้ไข 3 เดือน แต่นายสมบัติ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ กบข. ก่อนครบวาระเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เพื่อให้ กบข.เดินหน้าต่อไปได้ โดยมอบหมายให้นางศรีกัญญา ยาทิพย์ รองเลขาธิการ กบข.กลุ่มงานสมาชิกสัมพันธ์ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กบข. และแต่งตั้งนางสาวเมธินี เทพมณี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธานสรรหา คาดว่าจะสามารถแต่งตั้งเลขาธิการ กบข.คนใหม่ได้เร็วๆ นี้
นางศรีกัญญา กล่าวว่า ผลตอบแทนการลงทุนสุทธิสำหรับสมาชิก กบข.ปี 2559 เท่ากับร้อยละ 5.10 เนื่องจาก กบข.ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ โดยปรับสัดส่วนการลงทุน และกระจายความเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ประกอบด้วย การลงทุนตราสารหนี้ ร้อยละ 69 ตราสารทุน ร้อยละ 20 และอื่นๆ ร้อยละ 11 ขณะที่ผลตอบแทน กบข.เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ ร้อยละ 6.61 ต่อปี ทั้งนี้ สิ้นปี 2559 กบข.บริหารเงินกองทุน ซึ่งมีสินทรัพย์ 769,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 55,217 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.73 และผลประโยชน์สุทธิปี 2559 จำนวน 30,495 ล้านบาท
นายสมชัย เปิดเผยว่า เวลา 14.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) จะมีการหารือความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เบื้องต้น คาดว่าจะมีการออกมาตรการให้ตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด อาจจะเจาะจงตามภาค หรือจังหวัด โดยมุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายไดน้อยให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการพิจารณาข้อมูลผู้ลงทะเบียนเบื้องต้น คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 เดือน และคาดว่าจะออกมาตรการภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ยอมรับมาตรการด้านการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะมีการหารือเพิ่ม ส่วนความคืบหน้ากองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา