โรงงานยาสูบ ตื่นตัวรับไทยกลายเป็นสังคมคนชราอย่างสมบูรณ์ในปี 67 เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุตั้งตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ภายในพื้นที่ของ ร.พ ยาสูบ หวังช่วยให้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ลดการป่วยไข้ มีการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ มีชีวิตอย่างพอเพียง และสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงในชวงบั้นปลายของชีวิต ผ่านเทคนิค และวิธีการสอนต่างๆ โดยใช้เวลาในการเรียนรู้ทุกๆ วันพฤหัสฯ วันละ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกันไปจนครบ 96 ชั่วโมง
นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี 2567 ดังนั้น หลายหน่วยงานต่างก็มีความตื่นตัว และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้งโรงงานยาสูบเองที่มีชมรมผู้สูงอายุซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 โรงพยาบาลโรงงานยาสูบ และมีอดีตพนักงานยาสูบ และญาติพี่น้องของพนักงานที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โรงงานยาสูบจึงมีแนวความคิดที่จะเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ลดการเจ็บไข้ได้ป่วย มีการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างพอเพียง
ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โรงเรียนผู้สูงอายุจะมีความแตกต่างจากชมรมผู้สูงอายุตรงที่โรงเรียนนั้น มีหลักสูตร และตารางเรียนที่ช่วยให้เกิดความต่อเนื่องในการทำกิจกรรม ทำให้ผู้สูงอายุได้ฝึกสมอง และการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยผ่านเทคนิค และวิธีการสอนต่างๆ โดยใช้เวลาในการเรียนรู้วันละ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกันไปจนครบ 96 ชั่วโมง ตามหลักสูตรที่ได้จัดเตรียมไว้
ทั้งนี้ โรงเรียนผู้สูงอายุโรงงานยาสูบจะเปิดสอนผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยในรุ่นแรกนี้มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครเรียนทั้งสิ้น 40 คน ประกอบด้วยอดีตพนักงานยาสูบที่เกษียณอายุ และบุคคลทั่วไปที่มีความตั้งใจเข้ารับการเรียนการสอน และร่วมกิจกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ มีสุขภาพแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตนเอง และออกกำลังกายได้ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
โดยเปิดการเรียนการสอนทุกวันพฤหัสบดี รวมระยะเวลาเรียนตลอดทั้งหลักสูตร 16 สัปดาห์ เน้นส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มพูนความรู้ ทักษะชีวิตที่จำเป็นในด้านกฎหมาย ศาสนา เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย หลักโภชนาการที่ถูกต้อง กิจกรรมนันทนาการด้านดนตรี และกีฬา รวมไปถึงกิจกรรมทัศนศึกษานอกห้องเรียน โดยทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้ความรู้ และคำแนะนำตลอดทั้งหลักสูตร
นางสาวดาวน้อย กล่าวอีกว่า โรงงานยาสูบเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคลของสังคม โรงเรียนผู้สูงอายุโรงงานยาสูบ จึงเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยรัฐบาลในการลดปัญหาสังคมวัยชราในอนาคต ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในทุกหนแห่ง และทุกสังคม ที่สำคัญ คือ โรงเรียนของโรงงานยาสูบตั้งอยู่ในโรงพยาบาลโรงงานยาสูบ ใกล้กับสวนเบญจกิติ มีความพร้อมสำหรับต้อนรับ และดูแลผู้สูงอายุ ด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบาย และพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต
นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี 2567 ดังนั้น หลายหน่วยงานต่างก็มีความตื่นตัว และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้งโรงงานยาสูบเองที่มีชมรมผู้สูงอายุซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 โรงพยาบาลโรงงานยาสูบ และมีอดีตพนักงานยาสูบ และญาติพี่น้องของพนักงานที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โรงงานยาสูบจึงมีแนวความคิดที่จะเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ลดการเจ็บไข้ได้ป่วย มีการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างพอเพียง
ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โรงเรียนผู้สูงอายุจะมีความแตกต่างจากชมรมผู้สูงอายุตรงที่โรงเรียนนั้น มีหลักสูตร และตารางเรียนที่ช่วยให้เกิดความต่อเนื่องในการทำกิจกรรม ทำให้ผู้สูงอายุได้ฝึกสมอง และการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยผ่านเทคนิค และวิธีการสอนต่างๆ โดยใช้เวลาในการเรียนรู้วันละ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกันไปจนครบ 96 ชั่วโมง ตามหลักสูตรที่ได้จัดเตรียมไว้
ทั้งนี้ โรงเรียนผู้สูงอายุโรงงานยาสูบจะเปิดสอนผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยในรุ่นแรกนี้มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครเรียนทั้งสิ้น 40 คน ประกอบด้วยอดีตพนักงานยาสูบที่เกษียณอายุ และบุคคลทั่วไปที่มีความตั้งใจเข้ารับการเรียนการสอน และร่วมกิจกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ มีสุขภาพแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตนเอง และออกกำลังกายได้ ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
โดยเปิดการเรียนการสอนทุกวันพฤหัสบดี รวมระยะเวลาเรียนตลอดทั้งหลักสูตร 16 สัปดาห์ เน้นส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มพูนความรู้ ทักษะชีวิตที่จำเป็นในด้านกฎหมาย ศาสนา เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย หลักโภชนาการที่ถูกต้อง กิจกรรมนันทนาการด้านดนตรี และกีฬา รวมไปถึงกิจกรรมทัศนศึกษานอกห้องเรียน โดยทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้ความรู้ และคำแนะนำตลอดทั้งหลักสูตร
นางสาวดาวน้อย กล่าวอีกว่า โรงงานยาสูบเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นปูชนียบุคคลของสังคม โรงเรียนผู้สูงอายุโรงงานยาสูบ จึงเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยรัฐบาลในการลดปัญหาสังคมวัยชราในอนาคต ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในทุกหนแห่ง และทุกสังคม ที่สำคัญ คือ โรงเรียนของโรงงานยาสูบตั้งอยู่ในโรงพยาบาลโรงงานยาสูบ ใกล้กับสวนเบญจกิติ มีความพร้อมสำหรับต้อนรับ และดูแลผู้สูงอายุ ด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบาย และพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต