xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB คาด กนง.คงดอกเบี้ยยาวถึงกลางปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจTMB คาด กนง.คงดอกเบี้ยยาวถึงกลางปีหน้า หนุนเอกชนลงทุน มองทุนเคลื่อนย้ายไม่น่ากังวล

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมยาวตลอดปีนี้ เพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในปีนี้ และมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยอาจจะขยับขึ้นในช่วงกลางปีหน้าตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น

ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.3% โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวกว่า 3.2% ซึ่งมาจากการเติบโตของการบริโภคสินค้าคงทนเป็นหลัก โดยมีแรงหนุนสำคัญจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขยายตัวตามราคาน้ำมัน ในไตรมาสแรกรายได้ภาคเกษตรขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 21% อีกทั้ง ภาระหนี้ของผู้ซื้อรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรก ก็เริ่มทยอยหมดลงในปีนี้

ด้านการส่งออกในไตรมาสแรกก็ขยายตัวได้กว่า 4.9% โดยขยายตัวจากทั้งด้านราคา และปริมาณ และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนกลับหดตัวกว่า 1.1% จากที่หดตัวต่อเนื่องกัน 3 ปี ตั้งแต่ปี 56

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองว่า การลงทุนภาคเอกชนจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ในปีนี้ โดยมีการขยายตัวของการส่งออก และการลงทุนภาครัฐเป็นแรงหนุนสำคัญ โดยการส่งออกในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 3.7% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ IMF ประเมินว่า จะขยายตัวที่ 3.5% ในปี 60 เพิ่มขึ้นจาก 3.2% ในปี 59

อีกทั้ง การลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะเม็ดเงินลงทุนจากงบเพิ่มเติมกลางปี และเมกะโปรเจกต์อีกราว 4 แสนล้านบาท ที่จะถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบในปีนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนด้านก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ได้รับอนุมัติ BOI แล้วในปีที่ผ่านมา มูลค่ารวมกว่า 8.6 แสนล้านบาท ทำให้ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า ปีนี้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวที่ 1.7%

ดังนั้น การคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ จึงยังจำเป็นอยู่ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในปีนี้ นอกจากนี้ แรงกดดันจากเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยไตรมาสแรกเฉลี่ยเพียง 1.25% ซึ่งยังต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ธปท.ที่ 2.5% โดยศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดเงินเฟ้อจะเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.7% สอดคล้องกับคาดการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ ณ สิ้นปีนี้จะยืนที่ 57 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีกสองครั้งในเดือนมิถุนายน และธันวาคมในปีนี้ ทำให้ดอกเบี้ยเฟด แตะขอบบนของช่วง 1.25-1.5% ซึ่งจะเท่ากับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 1.5% ซึ่งจากเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยที่ยังแข็งแกร่ง สถานการณ์เงินทุนไหลออกรุนแรง จึงยังไม่เป็นเรื่องน่ากังวล

อย่างไรก็ตาม ในปี 61 อัตราดอกเบี้ยไทยจะเริ่มถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยเฟด ที่คาดว่า จะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฟด มองว่า จะปรับดอกเบี้ยขึ้นไปที่ 2.00-2.25% ณ สิ้นปี 61 ดังนั้น ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า ธปท.จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยในปีหน้า โดย ณ สิ้นปี 61 จะอยู่ที่ 2% จากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อที่ทยอยสูงขึ้น และแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยเฟด
กำลังโหลดความคิดเห็น