ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น เผยธุรกิจเงินด่วนรากหญ้ายังรุ่ง หลังเศรษฐกิจไม่ฟื้น-แบงก์เข้มงวดปล่อยกู้ ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าเป็น 2-3 ล้านคน ขยายสาขาครบ 3,500 สาขา ภายใน 3-5 ปี
นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทร่วมกับบริษัท เงินทุนศรีสวัสดิ์ ยกระดับเป็นสถาบันการเงินทางเลือกใหม่ ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงินจาก ธปท. ให้เงินกู้แก่คนในชุมชนที่ต้องการใช้เงินด่วน ไม่สามารถใช้บริการธนาคารพาณิชย์ เน้นลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำถึงร้อยละ 80 ทั้งรายย่อย อาชีพอิสระ ธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่มาก ประกอบกับธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ เพราะกลัวปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ขณะที่ลูกค้ายังมีความต้องการใช้เงินอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นโอกาสการปล่อยสินเชื่อ ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ขยายตัวร้อยละ 20-30 ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 50 หรือมียอดสินเชื่อใหม่ 18,000 ล้านบาท โดยบริษัทยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ เน้นสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น รถกระบะ เพื่อดูแลปัญหาเอ็นพีแอล ไม่ให้เกินร้อยละ 3 รวมทั้งเน้นการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด หากพบว่าลูกค้าประสบภัยธรรมชาติ หรือมีปัญหาการชำระจะผ่อนปรนพักชำระหนี้ส่วนเงินต้น และดอกเบี้ย รวมทั้งอนุมัติสินเชื่อเพิ่มเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
นางสาวธิดา กล่าวว่า ปัจจุบัน บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น มีลูกค้า 400,000 ราย ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 2-3 ล้านราย มีสาขา 2,300 สาขา และตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มให้ครบ 3,500 สาขา ภายใน 3-5 ปี เน้นสาขาใกล้ชุมชน และจะขยายตลาดในกลุ่ม CLMV โดยจะเพิ่มสาขาในเมียนมา เวียดนาม เน้นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน โดยหลักการพิจารณาเงินกู้จะเน้นอนุมัติเร็วภายใน 10 นาที