xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด “วินเทจ วิศวกรรม” ให้เพิ่มทุน 10:3 ในราคา 2.19 บ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บอร์ด “วินเทจ วิศวกรรม” อนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 249.17 ล้านหุ้น ขาย RO ในอัตรา 10:3 ในราคา 2.19 บาทต่อหุ้น เปิดจองระหว่างวันที่ 19-23 มิ.ย.60 เตรียมพร้อมลุยธุรกิจพลังงาน-ขยายธุรกิจก่อสร้าง มั่นใจช่วยผลักดันผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ กรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (VTE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีมติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 249,174,014 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาท ในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ที่ราคา 2.19 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2560 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) วันที่ 5 มิถุนายน 2560 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ 6 มิถุนายน 2560 วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) 1 มิถุนายน 2560

สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือการชำระคืนหนี้ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220 MW ที่เมืองมินบู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 25 MW ที่เมืองบิริรัน ประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ภายหลังจากที่โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนของโรงการก่อสร้างอื่นๆ หรือนำไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อผลักดันรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
 
นายศุภศิษฏ์ กล่าวอีกว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนงานที่วางเอาไว้อย่างชัดเจน และมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือแตะที่ระดับ 3,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) เนื่องจากบริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศเมียนมา ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวทยอยรับรู้รายได้ใน 4 ปีข้างหน้า หรือเฉลี่ยปีละ 2,500 ล้านบาท และงานธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในไทยที่เข้ามาเฉลี่ยปีละ 600 ล้านบาท และงานที่เหลืออยู่ในฟิลิปปินส์บางส่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น