“มั่นคงเคหะการ” เผยความสำเร็จหลังปรับแนวธุรกิจใหม่ เพิ่มพอร์ตธุรกิจให้เช่าและบริการ ส่งผลดีต่อผลประกอบการไตรมาสแรกปี 60 สูงถึง 651 ล้านบาท ระบุการเน้นตลาดโครงการแนวราบ เพิ่มมาร์จิ้นสูงขึ้น พร้อมกระจายความเสี่ยงสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่าบริษัทฯ เชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจหลังเดินหน้าปรับแนวทางการบริหารงานแบบพลิกกลยุทธ์นับจากปีที่ผ่านมา นำร่องความสำเร็จในไตรมาสแรกของปี 60ด้วยรายได้จากการขาย การเช่าและการบริการที่พุ่งแตะ 651.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.5 ล้านบาทเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินธุรกิจโดยรวมเท่ากับ 247.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.06% จากธุรกิจหลักและธุรกิจย่อย ประกอบด้วย รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์รวม 583.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 15.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ยังคงสร้างรายได้จากยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐดังเช่นไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา
และจากการดำเนินการที่มุ่งเน้นธุรกิจการพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นในส่วนของการขายอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 36.47% ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทยอยเปิดโครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องตลอดปี 2560 เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้ของบริษัทฯ ต่อไป
ในส่วนของธุรกิจให้เช่าและบริการของบริษัทฯ พบว่า มีอัตราเติบโตของรายได้ที่น่าจับตามอง คือเพิ่มสูงขึ้นถึง 76.41% ส่งผลให้กำไรเติบโตถึง 92.84% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการปล่อยเช่าพื้นที่คลังสินค้า และโรงงานของบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือ ซึ่งได้พัฒนาพื้นที่เช่าเพื่อให้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์รวม 25.26 ล้านบาท โดยธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ได้บริหารในนามของบริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการอาคาร และที่พักอาศัย ซึ่งได้มีการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากโครงการของบริษัทฯ และโครงการของบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ผู้นำในตลาด ณ ปัจจุบัน
“การดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ จะเน้นความต่อเนื่องในการปรับภาพลักษณ์สินค้า และองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพ และความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว ทั้งธุรกิจการให้เช่า ธุรกิจสนามกอล์ฟ เพิ่มเติมจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการที่เปิดตัวไปมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้” นายวรสิทธิ์ กล่าว