หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ คาดผลประกอบการไตรมาส 2/2560 ใกล้เคียงไตรมาสที่ผ่านมา ตุนงานในมือกว่า 400 ล้านบาท เล็งขยายธุรกิจไปประเทศกลุ่ม AEC
นายธรรมนูญ ตรีเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บมจ.หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ หรือ HARN กล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2560 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2560 ซึ่งเป็นไปตามการรับรู้รายได้จากงานในมือ หรือ Backlog ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานรับรู้ในมือแล้วกว่า 440 ล้านบาท แบ่งเป็นงานในกลุ่มธุรกิจระบบดับเพลิง จำนวน 240 ล้านบาท ธุรกิจกลุ่มระบบทำความเย็น จำนวน 160 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจระบบงานพิมพ์ดิจิตอล จำนวน 40 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ไม่น้อยกว่า 50%
ขณะที่เป้าหมายรายได้ในปีนี้ บริษัทฯ คงเป้าเติบโตรายได้ไว้ที่ 1,328 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 662.72 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2561 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,410 ล้านบาท และอาจเพิ่มขึ้นมาถึง 1,570 ล้านบาท ภายในปี 2562 โดยเป็นการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 10% ภายหลังการควบรวมกิจการกับ บริษัท ชิลแมทช์ จำกัด (CM) ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศ และบริษัท คิว ทู เอส จำกัด (QIIS) ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบพิมพ์ดิจิตอล ซึ่งทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าไตรมาส 1/2560 จะมีรายได้เพียง 267.84 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 3/2560 ที่จะมียอดขายผลิตภัณฑ์ทำความเย็นเข้ามา
“บริษัทประเมินเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 1,328 ล้านบาท จากการควบรวมกิจการ 2 บริษัท โดยกลยุทธ์ที่สำคัญในปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นเพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Oventrop PICV, Vicflex, ระบบตรวจจับควันไฟ (ASd) และกล้องตรวจจับความร้อน, ท่อทองแดง, ชุดคอนเดนซิ่งยูนิต และเครื่องพิมพ์แบบสามมิติ 3D Printer เป็นต้น และขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มเติมในแต่ละหน่วยธุรกิจ, ขยายงานด้านออกแบบและติดตั้งระบบวิศวกรรม, เพิ่มการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากผลิตภัณฑ์ระบบดับเพลิง และงานโครงการติดตั้งระบบดับเพลิง 44%, ผลิตภัณฑ์ระบบทำความเย็น 24%, ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศ และระบบสุขาภิบาล 6% และผลิตภัณฑ์ระบบพิมพ์ดิจิตอล 24% และรายได้อื่นๆ ราว 2% จากไตรมาส 1/60 มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 45.58%, 22.01%, 7.17% และ 23.55% ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนในการขยายช่องทางจำหน่ายไปยังต่างประเทศ โดยจะเน้นกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน หรือ AEC ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อขยายการลงทุนไปในประเทศลาว จากเดิมที่ได้ว่าจ้างพนักงานเพื่อเข้าไปขายในประเทศกัมพูชา และพม่า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดหวังจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ราว 1% ของรายได้รวมทั้งหมด