กสิกรไทย จับมือ KBZ Bank แบงก์อันดับ 1 ของเมียนมา ออกบัตรโอนเงินไทย-เมียนมา รองรับชาวเมียนมา 4 ล้านคนโอนเงินกลับประเทศสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ Kanbawza Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีเครือข่ายสาขา และมีฐานลูกค้ามากที่สุดในประเทศเมียนมา ออกบัตรโอนเงินไทย-เมียนมา (Myanmar Remit Card) เพื่อให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแก่ชาวเมียนมาที่ทำงานในประเทศไทย ด้วยบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพียงลูกค้าสมัครบัตรโอนเงินไทย-เมียนมา แล้วนำบัตรมาสแกนเพื่อทำรายการโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศกว่า 9,000 ตู้ โดยสามารถโอนเงินได้สูงสุดวันละ 100,000 บาทต่อหนึ่งบัญชีรับโอน ปลายทางสามารถรับเป็นเงินจ๊าดได้ภายใน 1 วัน ที่ Kanbawza Bank ทุกสาขาในเมียนมากว่า 400 สาขา หรือเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็มกว่า 800 ตู้ โดยลูกค้าที่ทำธุรกรรมโอนเงินไปเมียนมา ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤศจิกายน 2560 จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง หลังจากนั้น ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมการโอน 200 บาทต่อรายการ
โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา โดยเฉพาะ 25 สาขาในพื้นที่มีชาวเมียนมาจำนวนมาก ลูกค้าสามารถรับบัตรโอนเงินไทย-เมียนมาได้ทันที เช่น สาขาบางบอน, ถนนพระรามที่ 2, ยานนาวา, เซ็นทรัล พระรามที่ 2, เดอะมอลล์ บางกะปิ และสาขาในจังหวัดสมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ปทุมธานี, นครปฐม, เพชรบุรี, ตาก, สงขลา, เชียงราย, และชลบุรี
นายศีลวัต กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกบัตรโอนเงินไทย-เมียนมา นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ออกบัตรที่ลักษณะพิเศษที่ให้ทำธุรกรรมโอนเงินไปที่ประเทศเมียนมาโดยตรง ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม โดยการสแกนบาร์โค้ดบนบัตรเท่านั้น และธนาคารจะพัฒนาบริการดังกล่าวให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตามยุทธศาสตร์ของธนาคารในการที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของระบบชำระเงินในกลุ่มประเทศ CLMV
ทั้งนี้ ปัจจุบัน แรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย มีอยู่กว่า 4 ล้านคน ซึ่งชาวเมียนมาส่วนใหญ่โอนเงินกลับประเทศผ่านช่องทางที่มิใช่สถาบันการเงิน โดยพึ่งพาคนกลางนำเงินไปมอบให้กับทางญาติโดยตรง เนื่องจากมีความเคยชิน และง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งเสี่ยงที่ปลายทางจะไม่ได้รับเงิน หรือรับไม่เต็มจำนวนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งบริการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบริการของธนาคารเพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคใน AEC+3