xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีหุ้น “นิวไฮ”ปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


     ต้นสัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทัศนะมุมมองแนวโน้มตลาดหุ้นกับคนที่คลุกคลีอยู่ในตลาดหุ้นมายาวนาน มีอาชีพที่ต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก โดยผู้มากประสบการณ์การลงทุนรายนี้ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไว้สดใสมาก
     ทำนายว่า ปลายปีนี้ตลาดหุ้นจะกลับสู่ความคึกคัก ดัชนีหุ้นจะพุ่งขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
     นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางสำนักคาดการณ์ไว้ ดัชนีหุ้นไทยปลายปี จะพุ่งทะลุขึ้นไปยืนที่ระดับประมาณ1700 จุด ซึ่งถือเป็นการมองโลกสวยแล้ว แต่กำลังมีคนมองโลกที่สวยกว่า

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย สร้างสถิติสูงสุดไว้ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2537 โดยขยับขึ้นไปยืนที่ระดับ1753 จุด ก่อนจะรูดลงมายืนที่ระดับ201 จุด ในเดือนสิงหาคมปี2541
     กว่า23 ปีแล้วที่ตลาดหุ้นไทย ไม่สามารถลบสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ และน่าจะเหลือเพียงตลาดหุ้นเดียวในโลกที่ยังไม่ได้สร้างจุดสูงสุดใหม่
     แต่ถ้ามุมมองของผู้มากประสบการณ์ในตลาดหุ้นเป็นจริง ปลายปีนี้นักลงทุนคงได้เฮสนั่นกระดานหุ้น ฉลองสถิติสูงสุดใหม่ของดัชนี

     เหตุผลสนับสนุนมุมมองตลาดหุ้น ที่จะกลับเข้าสู่ยุคกระทิงปลายปีนี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายใน แต่เป็นแรงขับเคลื่อนจากภายนอก โดยทุนจากประเทศจีนจะไหลบ่าเข้ามา
     จีนกำลังดำเนินนโยบาย ส่งเสริมให้นักธุรกิจขยายการลงทุนไปต่างประเทศ อำนวยความสะดวกอย่างลับๆ โดยสนับสนุนด้านการเงิน กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำติดดินคือประมาณ0.3%ปี
     ต้นทุนการเงินที่ต่ำ ทำให้นักธุรกิจจีน มีขีดความสามารถแข่งขัน การประมูลงานต่างๆในประเทศไทย ช่วงนี้ไม่มีใครสู้จีนได้ เพราะเสนอราคาต่ำกว่าประมาณ10%
     จีนมีเงินมหาศาล พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อขยายขอบเขตทางการค้าและการลงทุน โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่จีนจะบุกมาปักหลักลงทุน
     เงินหยวนจะทะลักเข้ามา ทำให้ทรัพย์สินมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ราคาอสังหาริมทรัพย์จะขยับตัวกันอีกระลอกใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปค้ำประกันขยายวงเงินกู้ ทำให้ภาคธุรกิจเอกชนขยายการลงทุนมากขึ้น

     อีกเหตุผลที่ถูกหยิบยกมาเป็นข้อสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นคือ เงินจากโครงการรับจำนำข้าว จำนวนหลายแสนล้านบาท ซึ่งถูกซุกอยู่นอกระบบ จะถูกนำมาฟอกให้อยู่ในระบบ ส่วนใหญ่จะฟอกผ่านตลาดหุ้น
     เงินจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ถ้ากลับเข้ามาในระบบ จะกระตุ้นการไหลเวียนของระบบการเงิน และกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้น
     โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งเป็นโครงการที่ผลักดันมาเพื่อ”ดัก”เงินลงทุนที่กำลังปลิวว่อนไปทั่วโลก จะดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา และเป็นอีกแรงขับเคลื่อนในระบบเศรษฐกิจ
    ฟังสมมุติฐานการคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นปลายปีนี้แล้ว อย่างเพิ่งฝันไปไกล เพราะเป็นเพียงอีกมุมมองของการมองโลกในแง่ดี ซึ่งมีทั้งความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้
    เพราะตลาดหุ้นปัจจุบัน ไม่ได้ส่งสัญญาณความร้อนแรงเท่าไหร่ ทิศทางเศรษฐกิจยังไม่มีความแน่ชัดและอยู่ในภาวะซบเซาอย่ด้วยซ้ำ งยังไม่ใครพูดถึงการสร้างจุดสูงสุดใหม่ของดัชนีดท่าไหร่
    มองไกลสุดกันแค่1700จุดเท่านั้น และไม่แน่ใจว่า ปลายปีนี้จะได้เห็นกันหรือไม่
    แต่ตลาดหุ้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนดัชนีจะสร้างจุดสูงสุดใหม่จริงหรือไม่ คงต้องติดตามดูกันไป ดูความเคลื่อนไหวปัจจัยรอบด้านว่า มีสัญญาณที่จะกระตุ้นให้หุ้นพุ่งทะยานในข่วงปบายปีหรือไม่
    เพราะถ้ามีแนวโน้มว่า ปลายปีดัชนีหุ้นจะนิวไฮจริง จะได้ตีตั๋วขึ้นรถไฟเที่ยวแรก แต่ถ้ายังไม่เห็นสัญญาณ อย่ารีบร้อนช้อนซื้อหุ้นแล้วกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น