โรงพิมพ์ตะวันออก ไตรมาสแรก พลิกมีกำไรสุทธิ 69.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 199.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 ขาดทุนสุทธิ 69.9 ล้านบาท อานิสงส์เริ่มรับรู้กำไรโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 360 MW เข้ามา 13.2 ล้านบาท ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไปจ่อบุ๊คกำไรเพิ่มขึ้น ดันรายได้-กำไรปี 60 เติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมเข็น EP เข้าตลาดหุ้นในช่วงปลายปีนี้ รองรับแผนสยายปีกธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศ
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ของบริษัทฯ เริ่มพลิกฟื้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติมีกำไรสุทธิ 69.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 139.7 ล้านบาท คิดเป็น 199.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 ขาดทุนสุทธิ 69.9 ล้านบาท
โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกำไรจากการลงทุนในโครงการพลังงานไฟฟ้าใช้พลังงานความร้อนร่วม Co-generation Combined Power Plant จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง ที่ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO ได้ลงนามเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งทางตรง และทางอ้อม ในสัดส่วน 49.50% ของบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) และในสัดส่วน 40% ของบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ซึ่งจะรับรู้กำไรเข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นทันที โดยในไตรมาส 1/60 เริ่มรับรู้กำไรเข้ามา 13.2 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส เริ่มจากไตรมาส 2/60 หลังจากเข้าถือหุ้นครบตามเป้าหมาย
“แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/60 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นหลังจากเราเข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนครบตามเป้าหมาย โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 50% เทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 881 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 118 ล้านบาท” นายยุทธ กล่าว
ปัจจุบัน โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น เริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้า Kyoto ขนาดกำลังการผลิต 9.99 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์จำหน่ายกระแสไฟฟ้า (COD) แล้ว และได้เริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าปราจีนบุรี ขนาด 5 เมกะวัตต์ ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน EPCO เตรียมที่จะนำ EP ระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2560 รองรับแผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ คาดว่าจะดำเนินการยื่นไฟลิ่งได้ภายในไตรมาส 3/60