xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กโซติค ฟู้ด คาดปีนี้ โต 5%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอ็กโซติค ฟู้ด คาดรายได้ปี 60 เติบโต 5% จากปีก่อน ส่วนไตรมาสแรกโตแล้วกว่า 15% หรืออยู่ที่ 255 ล้านบาท เหตุอยู่ระหว่างแก้ปัญหาเดินเครื่องผลิตโรงงานใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ ให้ดำเนินการผลิตสินค้าได้เต็มที่ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นในการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม คาดแก้ไขปัญหาได้ช่วงกลางปี 2560 นี้ หนุนครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น ลุ้นปี 61 ผลงานโตกระโดด พร้อฒสร้างไลน์การดองพริก-ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน พร้อมบุกขยายตลาดทั่วโลก ลดพึ่งพายุโรปเพื่อกระจายความเสี่ยง

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาสแรกปีนี้ว่า มีรายได้จากการขายสินค้า 254.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.26% โดยมีปริมาณการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 7.84% จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรส และน้ำจิ้ม ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.44 ล้านบาท ลดลง 58.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 34.78 ล้านบาท 

“การลดลงของกำไรสุทธิในไตรมาสแรกที่ผ่านมา สาเหตุหลัก เนื่องจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าซึ่ง Q1/60 อยู่ที่ 27.25% ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าที่ 34.74% เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการย้ายฐานการผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรส และน้ำจิ้มไปยังโรงงานแห่งใหม่ จึงทำให้ยังคงมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานฝ่ายผลิตที่ยังซ้ำซ้อนกันระหว่างโรงงานที่แหลมฉบัง และที่นิคมอมตะซิตี้ นอกจากนี้ โรงงานแห่งใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผลิต จึงทำให้การผลิตยังไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ รวมถึงการปรับขึ้นของราคาน้ำตาลทราย และกระเทียม ที่เป็นวัตถุดิบของบริษัท ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยโดยรวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล” นายจิตติพร กล่าว

นายจิตติพร กล่าวเพิ่มเติมว่า รายได้จากการขายในงวดไตรมาส 1/2560 เติบโตขึ้น 15.26% นับเป็นการเติบโตขึ้นตามแผนที่วางไว้ แม้เป้าหมายรายได้ทั้งปี 2560 ที่วางไว้ช่วงต้นปีจะเติบโตประมาณ 5% จากปี 2559 ที่มีรายได้อยู่ที่ 878.19 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตของโรงงานแห่งที่ 2 ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตสินค้าได้เต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ รองรับสินค้าจากลูกค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางปี 2560 เป็นต้นไป จึงคาดว่าผลงานช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และโรงงานแห่งใหม่จะใช้เวลาประมาณ 5 ปี เพื่อคืนทุน

“ภายหลังการแก้ไขปัญหาจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อรุกตลาดซอสปรุงรส และน้ำจิ้มให้เพิ่มขึ้น รวมถึงพยายามหาลูกค้ารายใหญ่จากการออกงานแสดงสินค้า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวมเบื้องต้น 45 ล้านบาท แบ่งเป็น 30 ล้านบาท เพื่อขยายไลน์การดองพริกเพื่อผลิตซอส เพราะปัจจุบันยังซื้อพริกจากผู้ประกอบการรายอื่น โดยตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปี จะสามารถดองพริกใช้เองได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยสามารถลดต้นทุนได้ในอนาคต รวมถึงได้ตั้งงบไว้ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ในอนาคต และผลักดันรายได้ในปี 61 ให้เติบโตก้าวกระโดด” นายจิตติพร กล่าว

ปัจจุบัน สัดส่วนของตลาดส่งออกจะมาจากยุโรป 82% และสหรัฐฯ เอเชีย รวมถึงอื่นๆ 18% จากปี 59 ที่สัดส่วนจากตลาดยุโรปอยู่ที่ 68% อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่ให้เกิดการพึ่งพารายได้จากฝั่งยุโรปมากจนเกินไป บริษัทฯ จะพยายามจะขยายตลาดอื่นๆ ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น