แม้แรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐ จะฉุดทองคำปรับตัวลดลง แต่ความกังวลร่างกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาครองเกรส และการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบของจีน ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะสั้น ประเมินแนวรับ 1,213-1,200 เหรียญ/ออนซ์ ทยอยเข้าลงทุนได้ แต่ไม่ควรหมดหน้าตัก
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยมีทั้งปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่สุดท้ายได้มีการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง โดยถูกกดดันจากทิศทางดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง เป็น 3 ครั้ง และมีการส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับลดในส่วนของงบดุล ซึ่งสัญญาณดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
“ปัจจัยเหล่านี้กดดันให้ทองคำปรับตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ไล่ผู้อำนวยการ FBI ออก จนทำให้เริ่มคาดการณ์ว่าการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ทรัมป์ ในสภาครองเกรส และวุฒิสภาอาจเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น เพราะถูกจับตาเกี่ยวกับประเด็นความโปร่งใสงาน และการทำหน้าที่”
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม อาจต้องจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งจีน เพราะปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำรีบาวนด์มาจากธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้าไปในระบบ แต่นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลต่อแนวโน้มภาคการผลิต และเศรษฐกิจจีนอาจอ่อนตัวลง นำมาสู่รัฐบาลจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ ซึ่งหากสถานการณ์ลุกลาม หรือบานปลาย และรัฐบาลจีนมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมจากที่ปัจจุบันประกาศไว้ อาจมีเม็ดเงินบางส่วนไหลสู่ตลาดทองคำ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องจับตาคือ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตของรัฐนิวยอร์ก รวมเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน และการขอสร้างบ้าน รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ ซึ่งหากตัวเลขมีทิศทางสดใส ดอลลาร์สหรัฐอาจทะบานขึ้น และกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง
ทำให้กลยุทธ์ลงทุนจากนี้จะเห็นว่าราคาเริ่มทรงตัว และตั้งฐานได้ ระะยะสั้นน่าจะเกิดการรีบาวนด์ขึ้นในราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้ม หรือโมเมนตัมของทองคำก่อนหน้านี้เป็นขาลง ทำให้การปรับขึ้นของราคาทองคำในระยะสั้นจะเป็นไปได้ค่อนข้างจำกัด จึงต้องจับตาการดีดตัวขึ้นของราคาว่าจะผ่านแนวต้าน 1,236-1,245 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากไม่ผ่านระดับดังกล่าว แนะนำให้แบ่งทองคำออกขาย ถ้ารับความเสี่ยงได้น้อย และรอการย่อตัวลงมาของราคาจึงค่อยกลับเข้าไปซื้อใหม่ โดยมีแนวรับที่ 1,213-1,200 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากราคาอ่อนตัวลงมาเมื่ออยู่ระดับดังกล่าว แนะนำให้ทยอยเข้าลงทุน ไม่ใช่ลงทุนทีเดียวทั้งหมด และหากราคาผ่านแนวต้าน 1,245 เหรียญ/ออนซ์ นักลงทุนสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มได้