ปิดโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยยอดทะลุ 13.45 ล้านราย “คลัง” เตรียมเปิดช่องทางให้ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบรายชื่อตัวเองได้ตั้งแต่ 22 พ.ค.60-1 มิ.ย.60 ก่อนตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิขอรับสวัสดิการแห่งรัฐได้อีกครั้งในวันที่ 1 ส.ค.นี้
นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อขอรับสวัสดิการแห่งรัฐในปีนี้ว่า มีมากกว่า 13 ล้านคนจากการที่เปิดให้ลงทะเบียนนานถึง 1 เดือนครึ่ง โดยผู้ที่ได้ลงทะเบียนคนจนในปีนี้สามารถขอตรวจสอบรายชื่อของตัวเองได้แต่วันที่ 22 พฤษภาคม-1 มิถุนายนนี้ ผ่านสายด่วนหมายเลข 1359 ด้วยการแจ้งหมายเลขที่บัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ หรือตรวจสอบผ่าน 3 เว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง คือ www.mof.go.th,www.fpo.go.th, www.epayment.go.th
หลังจากนั้น กระทรวงการคลังจะส่งข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติทั้งกรมสรรพากร กรมที่ดิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สถาบันการเงิน เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จากนั้น จะเริ่มให้ประชาชนตรวรจสอบรายชื่อผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติอีกรอบตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 แต่หากไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือมั่นใจว่าข้อมูลตกหล่นให้แจ้งเพิ่มผ่านจุดลงทะเบียน โดยในเดือนกันยายน 2560 กระทรวงการคลังจะเริ่มแจกบัตรสวัสดิการให้กับประชาชนเพื่อนำไปใช้บริการ ทั้งรับการโอนเงินจากรัฐบาล การใช้บริการค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ค่าโดยสาร และสวัสดิการอื่นที่รัฐบาลจัดให้ นอกจากนี้ กระทรวงคลังกำลังศึกษาเพื่อสรุป และเสนอ ครม.พิจารณา หลังจากกระทรวงการคลังเตรียมตั้งกองทุน 50,000 ล้านบาทรองรับสวัสดิการแห่งรัฐ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ในปีนี้คาดมีผู้ลงทะเบียนผ่านธนาคารออมสิน ประมาณ 3.3 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นปีก่อนที่เคยมี 2.5 ล้านคน เมื่อรวมทุกหน่วยงานอาจสูงถึง 14-16 ล้านคน นอกจากนี้ ธนาคารออมสินพร้อมดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการดูแล อบรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริมให้กับผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปี หรือมีรายได้ 2,600 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเส้นความยากจน จึงต้องร่วมกับหลายหน่วยงานดูแลกลุ่มดังกล่าว เช่น การเคหะแห่งชาติ เพื่อให้การอบรมด้านอบรมอาชีพให้แก่ชุมชนในแฟลตของการเคหะฯ หรือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อบรมในด้านการทำอาหาร หัตถกรรม ช่างฝีมือ เพื่อช่วยสร้างรายได้เสริม โดยหลังจากนั้นธนาคารออมสินก็พร้อมส่งที่จะเสริมโครงการ Street Food โดยการปล่อยสินเชื่อผ่อนปรนให้กับพ่อค้าแม่ค้า ยกระดับคุณภาพอาหารให้กับร้านอาหารริมทางให้นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างชาติได้ชิมอาหารคุณภาพ
ส่วน นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงภาพรวมการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ผ่านระบบ ธ.ก.ส. ณ ศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 คาดว่าจะมีจำนวนกว่า 7.7 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่มีผู้ลงทะเบียน 4.6 ล้านราย ซึ่งขณะนี้ ธ.ก.ส.รวบรวมข้อมูลได้แล้วกว่า 80% และน่าจะนำส่งข้อมูลผู้ลงทะเบียนให้กระทรวงการคลังได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นนั้น พบว่าพื้นที่ที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 3.2 ล้านราย หรือคิดเป็น 50% ของยอดรวมผู้ที่มาลงทะเบียน โดยจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดที่มีผู้มาลงทะเบียนมากที่สุด ส่วนที่รองลงมา คือ จังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี และขอนแก่น ตามลำดับ
ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยังกล่าวต่อถึงผลการตรวจสอบผู้ที่มาลงทะเบียนจนถึงวานนี้ (15 พ.ค.) จำนวน 6 ล้านรายนั้น พบว่าจะมีผู้ที่เป็นลูกหนี้นอกระบบ 460,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีจะมีอยู่กว่า 3.62 ล้านราย โดยแบ่งเป็นเกษตรกร 1.3 ล้านราย, ผู้ว่างงาน 1.3 ล้านราย, นักศึกษา 70,000 ราย และอื่นๆ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอายุตั้งแต่ 46-60 ปี โดยหลังจากนี้ ธ.ก.ส.จะทำการคัดกรองข้อมูลผู้ลงทะเบียนเพื่อทำการวิเคราะห์ และหาแนวทางส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้
ล่าสุด ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่งได้รายงานยอดรวมสะสมผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อขอรับสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-15พ.ค. 60 ว่า ธนาคารออมสินมียอดรวมผู้ขอลงทะเบียนคนจนสะสมเบื้องต้นทั้งสิ้น 3,582,461 ราย, ส่วนยอดรวมสะสมของผู้ลงทะเบียนคนจนจาก ธ.ก.ส. เบื้องต้นมีทั้งสิ้น 7,552,665 ราย และยอดรวมสะสมเบื้องต้นจากธนาคารกรุงไทย มีทั้งสิ้น 2,318,994 ราย รวมทั้งสิ้นกว่า 13,454,120 ราย