ก.ล.ต.เปิดรับฟังความเห็นแก้ไขเกณฑ์ทุนจดทะเบียนโบรกเกอร์ เพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นแก้ไขหลักเกณฑ์เรื่องทุนจดทะเบียนชำระแล้วของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบ และความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถแข่งขันได้ และส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่
ปัจจุบัน การกำหนดทุนจดทะเบียนชำระแล้วของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จะกำหนดตามประเภทใบอนุญาต ซึ่งมีลักษณะรวมกันเป็นชุด (package) โดย 1 package สามารถประกอบธุรกิจได้หลายประเภท เช่น ใบอนุญาตแบบ ค. สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ซึ่งการกำหนดทุนจดทะเบียนลักษณะนี้อาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจประเภทเดียว หรือที่มีความเสี่ยงต่ำ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วสูงเกินจำเป็น ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับรูปแบบ และระดับความเสี่ยงของธุรกิจ นอกจากนี้ ยังไม่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการนำเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) มาใช้
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะแก้ไขหลักเกณฑ์ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่แสดงความพร้อมทางการเงินของผู้ที่ประสงค์จะเข้ามาประกอบธุรกิจ โดยพิจารณาจากลักษณะการประกอบธุรกิจ และกลุ่มผู้รับบริการ เช่น การประกอบธุรกิจที่มีภาระความรับผิดชอบต่อระบบชำระราคา และการส่งมอบ กำหนดให้มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ส่วนการประกอบธุรกิจที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อระบบชำระราคา แต่มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า กำหนดให้มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจยังคงต้องดำรงฐานะเงินกองทุนให้เพียงพอตามลักษณะการประกอบธุรกิจแต่ละประเภทด้วย
ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/hearing) ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2033-9660 หรือทาง e-mail ที่ info@sec.or.th จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2560