"ซีพีแอล กรุ๊ป" ไตรมาสแรกปี 60 พลิกขาดทุนเป็นกำไร 47 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท ขณะที่รายได้แตะ 541 ล้านบาท ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจฟอกหนังพ้นจุดต่ำสุดแล้ว มั่นใจปีนี้ภาพรวมธุรกิจคึกคักขึ้น ตั้งเป้า 3 ปี ดันรายได้แตะ 3 พันล้านบาท
นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกรรมการ บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL เปิดเผยถึง ผลการดำเนินประจำไตรมาสแรก สิ้นสุดณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 541 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 147 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท โดยพลิกจากที่เคยขาดทุนสุทธิ 25 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้นเกิดจากปัจจัยหลัก 4 ประการ ได้แก่ การปรับโครงสร้างบริษัทฯ ด้วยการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท แพงโกลิน เซฟตี้ โปรดักส์ จำกัด ทำให้ CPL รับรู้รายได้ของแพงโกลินเข้ามาในงบการเงินของบริษัทฯ ทั้งจำนวน โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา สินค้าเซฟตี้โปรดักส์ของแพงโกสินมียอดขายสูงสุดสร้างสถิติใหม่ (New High)
นอกจากนี้ ธุรกิจฟอกหนังยังกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ลูกค้าของ CPL ซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างก็ทยอยส่งคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ปรับปรุงระบบการจัดการภายใน เพื่อขจัดอุปสรรคและลดโอกาสขาดทุน โดยเฉพาะในไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ ไม่มีผลขาดทุนจากการขายหนังชั้นท้องเพื่อผลิตเป็นหนังกลับในสต็อกที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
“จากผลการดำเนินงาน Q1/60 ทำให้เรามั่นใจว่า อุตสาหกรรมฟอกหนังได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2559 ซึ่งเกิดความผันผวนทั้งกับเศรษฐกิจโลกและยังมีปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศแทรกซ้อน ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมชะลอลง แต่ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ลูกค้าเริ่มทยอยสั่งสินค้าและขายสินค้าได้มากขึ้น ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่การรับโอนกิจการแพงโกลิน ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าในตลาดเครื่องมือเครื่องใช้ทางด้านความปลอดภัย ทำให้การรับรู้รายได้เป็นไปในทางบวกมากขึ้น ทำให้บริษัทตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปีนี้ บริษัทจะมีรายได้แตะระดับ 3 พันล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายสุวัชชัยกล่าว
ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะใช้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายฐานการผลิต พร้อมทั้งปรับปรุงระบบการผลิตให้มีความสะดวกรวดเร็ว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อให้ CPL เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟอกหนังและจัดจำหน่ายหนังฟอกที่มีความหลากหลายและมีปริมาณมากที่สุดในประเทศ
นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกรรมการ บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL เปิดเผยถึง ผลการดำเนินประจำไตรมาสแรก สิ้นสุดณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 541 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 147 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท โดยพลิกจากที่เคยขาดทุนสุทธิ 25 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้นเกิดจากปัจจัยหลัก 4 ประการ ได้แก่ การปรับโครงสร้างบริษัทฯ ด้วยการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท แพงโกลิน เซฟตี้ โปรดักส์ จำกัด ทำให้ CPL รับรู้รายได้ของแพงโกลินเข้ามาในงบการเงินของบริษัทฯ ทั้งจำนวน โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา สินค้าเซฟตี้โปรดักส์ของแพงโกสินมียอดขายสูงสุดสร้างสถิติใหม่ (New High)
นอกจากนี้ ธุรกิจฟอกหนังยังกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ลูกค้าของ CPL ซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างก็ทยอยส่งคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ปรับปรุงระบบการจัดการภายใน เพื่อขจัดอุปสรรคและลดโอกาสขาดทุน โดยเฉพาะในไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ ไม่มีผลขาดทุนจากการขายหนังชั้นท้องเพื่อผลิตเป็นหนังกลับในสต็อกที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
“จากผลการดำเนินงาน Q1/60 ทำให้เรามั่นใจว่า อุตสาหกรรมฟอกหนังได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2559 ซึ่งเกิดความผันผวนทั้งกับเศรษฐกิจโลกและยังมีปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศแทรกซ้อน ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมชะลอลง แต่ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ลูกค้าเริ่มทยอยสั่งสินค้าและขายสินค้าได้มากขึ้น ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่การรับโอนกิจการแพงโกลิน ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าในตลาดเครื่องมือเครื่องใช้ทางด้านความปลอดภัย ทำให้การรับรู้รายได้เป็นไปในทางบวกมากขึ้น ทำให้บริษัทตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปีนี้ บริษัทจะมีรายได้แตะระดับ 3 พันล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายสุวัชชัยกล่าว
ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะใช้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายฐานการผลิต พร้อมทั้งปรับปรุงระบบการผลิตให้มีความสะดวกรวดเร็ว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อให้ CPL เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟอกหนังและจัดจำหน่ายหนังฟอกที่มีความหลากหลายและมีปริมาณมากที่สุดในประเทศ