xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ รายใหญ่-เล็ก Q1/60 รายได้-กำไรหดหลังยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อสังหาฯ รายใหญ่รายเล็กไตรมาสแรกยอดขาย-รายได้-กำไรหดถ้วนหน้า สะท้อนภาวะตลาดต้นปียังทรงตัวจากปีก่อนหน้า LPN แจงสาเหตุรายได้ไตรมาส 1 หดตัว เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายประสบปัญหาการเงิน อัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มสูง

นายวิทย์ ตันติวรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 6,369.35 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 646.41 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้ขาย 7,015.76 ล้านบาท หรือลดลง 9.21% โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,773.55 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,995.52 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง จำนวน 221.97 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 11.12% โดยรายได้ในไตรมาสแรกนี้ เกิดจากการขายบ้านเดี่ยว 65% การขายทาวน์เฮาส์ 8% และคอนโดมิเนียม 27%

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวมในไตรมาส 1/2560 จำนวน 2,472.66 ล้านบาท ลดลง 1,952.19 ล้านบาทจากไตรมาส 1/2559 หรือลดลง 44.12% โดยรายได้หลักมาจากรายได้จากการขายกว่า 90% ของรายได้รวม ซึ่งลดลงจาก 4,252.02 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 2,266.44 ล้านบาทในปี 2560 หรือลดลง 46.70% เนื่องจากสถานภาพทางการเงินของกลุ่มเป้าหมาย อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ รวมถึงวงจรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ lpn มีกำไรสุทธิลดลง 389.03 ล้านบาท จาก 704.21 เป็น 315.18 ล้านบาท หรือลดลง 55.24% เนื่องจากรายได้จากการขายลดลงจาก 4,252.02 เป็น 2,266.44 ล้านบาท หรือลดลง 46.70% แต่ยังคงรักษาระดับกำไรขั้นต้นไว้ 30% ของรายได้ เนื่องจากบริษัทฯ มีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 10.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,928.1 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 3,262.9 ล้านบาท 1,334.8 ล้านบาท หรือมีรายได้ลดลง 40.9% โดยมีกำไรขั้นต้นที่ 684.4 ล้านบาท ลดลงจากจำนวน 498.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.7 ล้านบาท ลดลง 322.6 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรสุทธิ 367.3 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิลดลง 87.8%

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้รายได้และกำไรสุทธิของไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง เนื่องจากบริษัทไม่มีรายได้จากการขายที่ดินเปล่าเข้ามา ขณะที่ไตรมาสแรกของปีที่แล้ว บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินเข้ามา 46.8 ล้านบาท ประกอบกับรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมในประเทศในไตรมาสนี้ก็ลดลงจากปีก่อนหน้า 11.9 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายด้านการเงินก็เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของไตรมาสแรกปี 59 กว่า 29.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 14.5% จึงส่งผลให้ในไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิและรายได้ปรับตัวลดลง

นายสิทธิ ลีละเกษมกฤษ์ กรรมการบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสมแรกของปี 60 บริษัทมีรายได้จากการขาย และพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ 3,316.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,307.09 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาสนี้ บริษัทเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโนเบิล เพลินจิต ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี 59 บริษัทไม่มีรายได้จากโครงการใหม่เข้ามา เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้า

จากการทยอยรับรู้รายได้โครงการโนเบิล เพลินจิต ทำให้ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิเข้ามา 894.93 ล้านบาท ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1,000% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลประกอบการขาดทุน 137.90 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทในไตรมาสนี้มีการปรับตัวสูงขึ้น 177.52 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช่จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ โนเบิล เพลินจิต และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการเงินด้วย

ด้าน นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มมหาชน) กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 591.90 ล้านบาท ลดลง 7.30% จากไตรมาสแรกของปี 59 ซึ่งมีรายได้รวมที่ 638.51 ล้านบาท หรือมีรายได้ลดลง 46.61 ล้านบาท โดยเป็นยอดรายได้จากการขายทาวน์เฮาส์ 264.63 ล้านบาท จากบ้านเดี่ยว 202.15 ล้านบาท และเป็นรายได้จากโครงการอาคารชุด 85.54 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43.45 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 0.01 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปี 59 ซึ่งมีกำไรสุทธิที่ 43.46 ล้านบาท หรือลดลง 0.02%