xs
xsm
sm
md
lg

อนันดา ประกาศลงทุนไตรมาส 2 เพิ่ม 22,676 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชานนท์ เรืองกฤตยา
อนันดาฯ ส่วนกระแสตลาดไตรมาส 2 ประกาศปรับแผนลงทุน ลุยลงทุน 7 โครงการ มูลค่า 22,676 ล้านบาท เพิ่มจากแผนเดิมที่วางไว้ 6,025 ล้านบาท พร้อมปรับเพิ่มเป้ายอดขายไตรมาส 25% หนุนยอดขายทั้งปี 31,030 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนคงไว้ที่ 25,000 ล้านบาท ไตรมาสแรกกำไร 140.3 ล้านบาท

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2560 มียอดโอน 2,238 ล้านบาท ซึ่งรวมยอดโอนจากโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างผลกำไรสุทธิที่ 140 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิของบริษัทที่ 6% เช่นเดียวกันกับปีก่อน

ไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการตามเป้าหมาย ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย มูลค่าโครงการ 934 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสถานีศรีบูรพา ยูนิโอ เอช ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 941 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าสถานี MRT ติวานนท์ และโครงการแนวราบอาร์เทล พัฒนาการ-ทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ ตั้งอยู่ห่างจากทองหล่อเพียง 3.5 กิโลเมตร

สำหรับไตรมาสแรกปี 2560 บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากโครงการใหม่ และโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้า จำนวน 4,436 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2559 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 42,461 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด รองรับการโอนใน 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

นายชานนท์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ จะเปิดโครงการใหม่เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ในไตรมาสแรก 3 โครงการ และจะเปิดโครงการใหม่อีก 7 โครงการในไตรมาสสอง ซึ่งจะส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสสองสูงถึง 267% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากเดิมที่ 6,025 ล้านบาท เป็น 22,676 ล้านบาท ซึ่งการเปิดตัวโครงการใหม่นี้ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 21,163 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่า 1,513 ล้านบาท พร้อมทั้งปรับเพิ่มเป้ายอดขาย (presales) ในไตรมาสสอง อีก 25% จากเป้าหมายก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ และเป้ายอดขายทั้งปีอีก 2% จากเป้าก่อนหน้าจากการเพิ่มมูลค่าโครงการบางส่วน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงอยู่ในช่วงที่เรียกว่า "ระยะเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน" ซึ่งจะเห็นได้จากยอดโอนที่เติบโตขึ้นสามเท่าตัว ระหว่างปี 2558 จนถึง 2561 รวมการเติบโต 58% จากปี 2559 สำหรับการโอนในปี 2560 อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่จะโอนในปี 2560 มูลค่ากว่า 16,300 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของเป้ายอดโอนในช่วงเก้าเดือนข้างหน้า ซึ่งรวมส่วนแบ่งยอดโอนของอนันดา และมิตซุย ฟูโดซัง มาจากคอนโดมิเนียม 10 โครงการที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มโอนในปี 2560 โดยเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการที่แล้วเสร็จในปี 2559

บริษัทฯ ยังคงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งหักด้วยเงินสดต่อส่วนทุนอยู่ที่ 0.69:1 เท่านั้น ซึ่งกระแสเงินสดของบริษัทฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 3,276 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการเงินสดของบริษัทฯ ตลอดทั้งปี สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ โดยในไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือประเภทด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

นอกจากนี้ ยังคงรักษาความมีวินัยทางการเงิน โดยบริษัท ทริส เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ในเดือนเมษายน ปี 2560 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ด้วยต้นทุนหุ้นกู้ เพียง 3.95% ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 5.40% ที่ออกหุ้นกู้เมื่อ 3 ปีก่อน

ทั้งนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็น 12.5 สตางค์ เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้านี้ โดยเป็นการเพิ่มเงินปันผลขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่มีการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2560 บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 140.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของรายได้รวม ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 8.3 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.6 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับรายได้

ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 2,314.3 ล้านบาท ลดลง 281.1 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับรายได้รวมของงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากปัจจัยหลัก คือ การลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 601.8 ล้านบาท

โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท และบริษัทย่อย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 68.1 ของรายได้รวมลดลงจากปีก่อนที่สัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ต่อรายได้รวมคิดเป็นร้อยละ 84.0 เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการบริหารโครงการ และค่านายหน้าเพิ่มขึ้นจากงวดเดี่ยวกันของปีก่อนเท่ากับ 86.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.0 จากการรับจ้างบริหารโครงการของบริษัทกิจการร่วมค้าของบริษัท จำนวน 15 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6 โครงการ ขณะเดียวกัน การรับรู้รายได้จากการให้บริการงานก่อสร้างของบริษัท เฮลิกซ์ จำกัด เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 155 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 225.5

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2560 มีกำไรจากการขายเงินลงทุน กิจการร่วมค้า 71.3 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการปรับโครงสร้างการลงทุน โดยบริษัทฯ มีกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ บางจาก จำกัด (กิจการร่วมค้า) ให้กับ บริษัท อนนัดา เอแพค บางจาก จำกัด

สำหรับในไตรมาส 1/2560 บริษัท และบริษัทย่อยมีการรับรู้รายได้ห้องชุด และบ้านเดี่ยว จำนวน 883 หน่วย เพิ่มขึ้น 277 หน่วยจากงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สุทธิลดลง เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ห้องชุด จำนวน 374 หน่วยของโครงการยูนิโอ จรัญฯ 3 ที่มีราคาขายเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อหน่วย

กำลังโหลดความคิดเห็น