ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ โชว์ผลงานไตรมาสแรก เติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 661.9 ล้านบาท หลังกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริหารด่วนหรือ QSR และอาหารทะเลแปรรูป เป็นหัวหอกดันการเติบโตเด่น ผู้บริหารเดินแผนเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ชูโมเดลเร่งขยายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ แซ่บคลาสสิก และร้านข้าวหมูยูนนาน ตั้งเป้ากลุ่มธุรกิจ QSR โตไม่ต่ำกว่า 40% ช่วยหนุนภาพรวมการดำเนินงานทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิต และจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 บริษัทฯ มีรายได้รวม 661.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 632.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.4 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 35% รองลงมา ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (กลุ่มลูกชิ้นปลา) เติบโต 4% ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมือง และธุรกิจขนมขบเคี้ยว มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้โดยภาพรวมบรรยากาศกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่คึกคักมากนักก็ตาม
สำหรับปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ QSR มาจากยอดขายของร้านแซ่บคลาสสิก ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากขึ้น ทั้งในส่วนที่เข้ามาใช้บริการภายในสาขา หรือการสั่งซื้อสินค้าเพื่อกลับไปทานที่บ้าน (เดลิเวอรี่) ผ่านระบบ Call Center 02-082-8000 ที่พบว่า ทำสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของยอดขายรวมทั้งหมด เช่นเดียวกับร้านข้าวขาหมูยูนนาน ก็ทำยอดขายได้สูงขึ้นเช่นกัน
“เราพอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีที่สามารถผลักดันการเติบโตของธุรกิจ QSR ได้อย่างโดดเด่น ซึ่งกลุ่มธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ From Farm to Table ของกลุ่ม ส.ขอนแก่น ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม และผลักดันความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของ ส.ขอนแก่น มากยิ่งขึ้น” นายเจริญ กล่าว
สำหรับแนวทางดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ จะปรับกลยุทธ์ของธุรกิจ QSR ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยชูโมเดลเน้นขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนขยายสาขาเพิ่มเติม จากเดิมบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเปิดสาขาเองทั้งหมด โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีสาขาแซ่บ คลาสสิก เปิดให้บริการจำนวน 28 สาขา แบ่งเป็น บริษัทฯ ที่เป็นผู้ลงทุนเอง จำนวน 14 สาขา และเป็นของแฟรนไชน์อีกจำนวน 14 สาขา พร้อมกันนี้ยังมีแผนเมนูอาหารใหม่ๆ ที่ได้รับนิยมจากลูกค้าคนไทย และต่างชาติ
ส่วนร้านข้าวขาหมูยูนาน บริษัทฯ จะเน้นการเปิดสาขาขนาดเล็ก หรือคีออส ผ่านการขายแฟรนไชส์แก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งใช้เงินลงทุนเพียง 100,000 บาท หวังรุกเข้าสู่แหล่งชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเปิดร้านข้าวขาหมูเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าภายปีนี้จะเปิดเพิ่มได้อีก 30 แห่งทั้งในประเทศ และในภูมิภาคอาเซียน จาก ณ สิ้นปี 2559 ที่มีอยู่ 24 แห่ง แบ่งเป็นสาขาในประเทศไทย จำนวน 19 สาขา กัมพูชา 3 สาขา ลาว 2 สาขา พร้อมกันนี้ ยังจะจัดทำสินค้าขาหมูพร้อมทานไปวางจำหน่ายภายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ รองรับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อกลับไปทานที่บ้านอีกด้วย
ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจ QSR ในปีนี้ทำยอดขายเเติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และช่วยผลักดันให้ภาพรวมการดำเนินงานของ ส.ขอนแก่น ในปีนี้สามารถทำยอดขายรวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามแผนที่วางไว้