หุ้นปิดครึ่งวันเช้าบวก 1.37 จุด แกว่งแคบหลังไร้ปัจจัยหนุน เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของบางบริษัทออกมาต่ำกว่าคาด ขณะเดียวกัน ก็รอดูตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/60 ของไทย ที่จะประกาศในวันจันทร์หน้า (15 พ.ค.) ด้วย
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (11 พ.ค.) แกว่งแคบ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของบางบริษัทออกมาต่ำกว่าคาด และตลาดฯ ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน ขณะเดียวกัน ก็รอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/60 ของไทย ที่จะประกาศในวันจันทร์หน้า (15 พ.ค.) ด้วย
อีกทั้งตลาดฯ ยังมีกระแสกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ด้วย และยังต้องรอดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปก ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งมีประเด็นเรื่องการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยตลาดฯ คาดว่า จะขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก และยังอาจจะเพิ่มปริมาณที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกด้วย ซึ่งหากเป็นจริงก็อาจทำให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,561.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 23,414.26 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งแคบ โดยให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565 จุด