โบรกฯ ชี้ 4 ปัจจัยเสี่ยงฉุดตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีแรก คาด บจ.ไตรมาสแรก โกยกำไรสุทธิ 2.22-2.40 แสนล้านบาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องติดตาม และมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 2/2560 มี 4 ปัจจัย
ประกอบด้วย นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) การเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 1/2560 และสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ทั้งในส่วนของภาคการบริโภค และการลงทุนภาครัฐ
“โอกาสที่เฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 มิ.ย.นี้ มีความน่าจะเป็นสูงมาก เพราะจะมีผลต่อเรื่องของการซื้อขายสุทธิของต่างชาติ และกระแสเงินทุนต่างชาติ” นายมงคล กล่าว
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ในไตรมาส 1/2560 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้ประเมินกำไรสุทธิของ บจ.อยู่ที่ระดับ 220,000-240,000 ล้านบาท โดยจำนวนนี้เป็นธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง เกือบ 54,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ภาพรวมมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่นักลงทุนยังคงจับตาเรื่องของการประสบปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มพลังงานที่กำลังทยอยแจ้งผลประกอบการ แต่ภาพรวมกำไรสุทธิน่าจะอยู่ในระดับ 50,000 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2560 พบว่า หลายบริษัทมีผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จึงเป็นสาเหตุทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในบางวัน