มีข่าวลือว่า ปัญหาบริษัท ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรขั่น จำกัดหรือหุ้น “ไอเฟค” ใกล้จะจบแล้ว เพราะกำลังมีการเจรจาขายหุ้นระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ฝ่ายนายทวิช เตชะนาวากุลกับนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท
การประชุมผู้ถือหุ้น “ไอเฟค”เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นกลุ่มนายทวิชเคยแสดงท่าที โยนหินถามทางมาแล้ว โดยประกาศจะขายหุ้นให้นายแพทย์วิชัย
ถ้ามีการซื้อขายหุ้นกันจริง และตกลงซื้อขายกันได้ การแก้ปัญหา “ไอเฟค”คงง่ายขึ้น เพราะเมื่อมีผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มเดียว การดำนเนินโยบายจะเกิดความคล่องตัวขึ้น
แต่กลุ่มนายทวิชขายหุ้นทิ้งจริงหรือ และจะขายราคาเท่าใด โดยราคาที่เสนอขาย นายแพทย์วิชัยพอใจจะซื้อหรือไม่
แม้ “ไอเฟค”จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นไปแล้ว โดยแต่งตั้งกรรมการใหม่ 3 คน แทนกรรมการที่หมดวาระ แต่ปัญหาความขัดแย้งยังไม่จบ เพราะนายวิชัยไม่ยอมรับวิธีการลงคะแนนแต่งตั้งกรรมการใหม่ และเคลื่อนไหวฟ้องร้องอยู่
ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่วันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เพื่อพิจารณางบการเงินปี2559 การแก้ปัญหาหนี้ รวมทั้งแผนการขายทรัพย์สิน ก็ไม่แน่ใจว่า กรรมการฝั่งนายทวิช 4 คน จากกรรมการทั้งหมด 9 คน จะเข้าร่วมหรือไม่
ความพยายามประสานความขัดแย้งระหว่างนายทวิชกับนายแพทย์วิชัย มีบทสรุปแล้วคือ ไม่มีทางเป็นไปได้ ทั้งสองคนไม่อาจลงเรือลำเดียวกันได้
และถ้าเสื้อสองตัวยังคงอยู่ในถ้ำเดียวกันต่อไป ผู้ถือหุ้นรายย่อย “ไอเฟค”จะมีแต่ตายกับตาย
เพราะฐานะของ “ไอเฟค”จะฟุบหนัก ถึงจุดหนึ่งอาจสายเกินเยียวยา และทั้งกลุ่มนายทวิชกับนายแพทย์วิชัยจะเสียหายทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นจึงมีข้อเสนอทางออกใหม่ โดยนายทวิชซึ่งถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง มีหุ้นในมือที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการจำนวน 202.61 ล้านหุ้น หรือ สัดส่วน 10.03% ของทุนจดทะเบียน พร้อมกลุ่มพันธมิตร ซึ่งไม่ทราบจำนวนหุ้นที่ถืออย่างแน่ชัด จะเสนอขายหุ้นทั้งหมดให้กลุ่มนายแพทย์วิชัย
และปล่อยให้กลุ่มนายวิชัยกุมอำนาจใน “ไอเฟค”แต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องกังวลว่าใครจะเป็นคู่ขัดแย้ง
ชะตากรรมผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเป็นอย่างไร “ไอเฟค”จะฟื้นหรือฟุบ จะฝากไว้กับนายแพทย์วิชัยเพียงคนเดียวเท่านั้น
หลายเดือนที่ผ่านมา กระบวนการแก้ปัญหาในบริษัทจดทะเบียนแห่งหนี้หยุดชะงัก เพราะปัญหาความขัดแย้งภายในระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กับฝ่ายบริหารบริษัท
ถ้าคู่ขัดแย้งฝ่ายหนึ่ง ยอมหลีกทางให้อีกฝ่ายหนึ่ง โดยตัดสินใจขายหุ้นทิ้งให้อีกฝ่าย ปัญหาความขัดแย้งจะหมดไป ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆเกิดความคล่องตัวมากขึ้น
แต่โจทย์ใหญ่คือ จะเจรจาตกลงซื้อขายหุ้นกันได้หรือไม่
เพราะผู้ขายคงต้องการขายหุ้นในราคาสูง ส่วนผู้ซื้อ ต้องกดราคาซื้อ เพราะต้องการซื้อหุ้นในราคาต่ำ ซึ่งหากหาราคาเหมาะสมไม่ได้ การเจรจาซื้อขายหุ้นคงต้องล้มโดยปริยาย
นายทวิชและนายแพทย์วิชัย ต้องกลับสู่สถานการณ์การเผชิญหน้ากันต่อไป
ราคาหุ้นไอเฟคปิดครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ราคา 3.10 บา ก่อนจะถูกพักการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน โดยราคาปิดครั้งสุดท้าย ไม่อาจนำมาใช้อ้างอิงราคาที่ทั้งสองฝ่ายจะซื้อขายกันได้
ข่าวการเจรจาซื้อขายหุ้นระหว่างนายทวิชกับนายแพทย์วิชัย อาจดูเหมือนว่า วิกฤต “ไอเฟค”ใกล้จบ แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่รอการแก้ปัญหา “ไอเฟค” จะด่วนดีใจไม่ได้
เพราะ “ดีล”ซื้อขายหุ่นระหว่างนายทวิชกับนายแพทย์วิชัย อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ ถ้าไม่สามารถหาราคาที่ตะทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจและยอมรับกันได้
ถ้าการเจรจาซื้อขายหุ้นล้ม นายทวิชลาทยแพทย์วิชัย คงต้อวงก้มหน้าก้มตาทำศึกกันต่อไป ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยคงไม่สนุกด้วยนัก