เมย์แบงก์ คาดตลาดเอเชียโตต่อเนื่อง โอกาสทองนักลงทุนยุโรป

เมย์แบงก์ กรุ๊ป กล่าวในงาน อินเวสต์ เอเชีย ที่ประเทศอังกฤษ เผยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในยุโรป เอเชียถือว่าเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับนักลงทุนยุโรป งาน Invest Asia UK จัดขึ้นที่ The May Fair ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีนักลงทุนเข้าร่วมงานมากกว่า 300 คน จาก 23 ประเทศ รวมทั้งมีบริษัท 31 บริษัท จาก 12 ประเทศในเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และปากีสถาน ครอบคลุมทั้งเอเชียเหนือ และกลุ่มอาเซียน คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ร่วมด้วยผู้จัดการกองทุนกว่า 120 แห่ง ทั่วทั้งยุโรป รวมทรัพย์สินภายใต้การดูแลกว่า 19 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ดาโต๊ะ จอน ชอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า เอเชียมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีโครงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืนด้วยประชากร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศประชากร 4.4 พันล้านคน ในเอเชียที่อายุเฉลี่ย 30 ปี เป็นประชากร 60% ของประชากรโลก อาเซียนเองก็เป็นกลุ่มแรงงานสำคัญอันดับ 3 ของโลก ซึ่งมีประมาณ 60% อายุต่ำกว่า 35 ปี ประเทศต่างๆ เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของประชากร งบดุลทางการเงินที่ต่ำ และเทคโนโลยี่ที่ล้ำสมัยจากรายงานของ Asian Development Bank รายงานว่า เอเชียต้องการงบประมาณ 22.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (เทียบเท่า 5.1% ของจีดีพี) สำหรับค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานในระหว่างปี 2559-2573 เพื่อรักษาการเติบโต และขจัดความยากจน นอกเหนือจากการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียส่งเสริมให้เอเชียเติบโต โดยการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตแ ละการเชื่อมโยงกันในภูมิภาค

“เอเชียยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางของประเทศ มีเศรษฐกิจที่ก้าวหน้ามากสองแห่งของโลก นั่นคือ อินเดีย และจีน ด้วยอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจราว 6-7% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรอบ การลงทุนนอกประเทศของจีนเติบโตขึ้น 28% CAGR ของปี 2553 ถึง 2558 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และการลงทุนนอกประเทศของจีนราว 70% อยุ่ที่เอเชีย” ดาโต๊ะ จอน ชอง กล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเอเชียจะเติบโตมากในปีนี้ เนื่องจากภาวะการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการฟื้นตัวของภาคการส่งออกตั้งแต่ปลายปี 2559 ซึ่งส่งผลดีต่อหลายประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ด้านประเทศเศรษฐกิจฝั่งเอเชียตะวันออก เช่น ไต้หวั่น เกาหลี สิงคโปร์ และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของโลกก็ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน The Asia Development bank คาดว่าเอเชียจะเติบโตประมาณ 5.7% ในปี 2560 และ 2561

ด้านการลงทุนหุ้น ประเทศเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วโลก และมีสัดส่วนค่าคอมมิชชันเป็น 15% ของทั้งโลก ในปี 2559 และเป็นอันดับ 2 รองจากอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นเอเชียมีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าจำนวนมาก โดยดัชนี MSCI ประเทศในเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้น 19% เทียบกับปีที่แล้วในเดือน เมษายน 2559

“การประเมินมูลค่าของตลาดเอเชียยังคงน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับปี 2560 เราคาดว่า S&P500 จะซื้อขายที่ค่า P/B 2.9 เท่า ขณะที่ประเทศเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นจะมีค่า P/Bที่ 1.5 เท่า ในปี 2559 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำอันดับ 1 ด้านวานิชธนกิจในอาเซียน โดยเป็นอันดับ 1 ด้านการเป็นที่ปรึกษา การควบรวมกิจการและด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนด้านพันธบัตรสกุลเงินในประเทศและตราสาร Sukuk”