ผู้จัดการตลาด mai เผยธุรกิจเอสเอ็มอีหลายแห่งขาดแคลน CFO-นักบัญชี แห่ชิงตัวพร้อมให้เงินเดือนสูง หลัง ก.ล.ต.จ่อคลอดเกณฑ์ใหม่ต้นปี 2561 หวั่นเข้าตลาดหุ้นยากขึ้น
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai หลายรายประสบปัญหาการขาดแคลนผู้บริหารตำแหน่งสูงสุดสายงานบัญชีและการเงิน (CFO) และสมุห์บัญชี
เนื่องจากหลักเกณฑ์ใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องมีตำแหน่งซีเอฟโอในบริษัทอย่างน้อย 1 ปี ก่อนที่บริษัทจะยื่นขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)
เบื้องต้น ทาง mai และที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ ก.ล.ต.กำหนดเข้ามาทำงาน
“ตอนนี้มีบริษัทที่มีการแต่งตั้ง FA แล้วกว่า 100 บริษัท เพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดฯ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะทยอยเข้าได้ภายใน 3-5 ปี และยังมีหลายบริษัทที่สนใจจะเข้าตลาดฯ แต่ยังไม่ได้แต่งตั้ง FA โดยปีนี้คาดว่ามีบริษัทเข้าระดมทุนในตลาด mai ได้ 15 บริษัท มูลค่าราคาตลาด 20,000 ล้านบาท ซึ่งเข้าไปแล้ว 6 บริษัท และอยู่ระหว่างดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังอีก 9 บริษัท” นายประพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหา คือ หลายบริษัทมีปัญหาเรื่องตำแหน่ง CFO ซึ่งยอมรับว่า ตำแหน่งดังกล่าวที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ หายาก และขาดแคลนจริง อีกทั้งมีการแย่งชิงกันโดยให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งทางตลาดฯ ได้ช่วยเต็มที่ในการประสานงานกับผู้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในภาพรวมการปรับปรุงร่างประกาศหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของ CFO และสมุห์บัญชี ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะระบบบัญชี และความเข้าใจการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินของบริษัทดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่เลือกใช้บุคลากรไม่ตรงกับสายงาน เช่น บางบริษัทได้ CFO ที่จบวิศวกรรม และอื่นๆ เป็นต้น
รายงานข่าวระบุว่า ร่างประกาศหลักเกณฑ์ฯ ของ ก.ล.ต. คาดว่าจะมีผลบังคับใช้กับบริษัทที่มายื่นคำขออนุญาตกับ ก.ล.ต. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นไป